2011年12月2日 星期五

เทพหลวี่ต้งปิน ใช้ชี้นิ้วเสกหินให้เป็นทอง

มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ครั้งหนึ่ง  ท่านหลวี่ต้งปิน หนึ่งในแปดเซียน
ลงมาท่องเที่ยวยังโลกมนุษย์ 
ท่านเห็นเด็กน้อยผู้หนึ่งยืนร้องไห้อยู่ริมถนน จึงเดินเข้าไปถามเด็กน้อยว่า
หนูน้อย เจ้าร้องไห้เพราะเหตุใดหรือ? ”
เด็กน้อยสะอื้นไห้กล่าวว่า “ คุณแม่ของข้าไม่สบาย
ไม่มีเงินซื้อยาให้ท่าน จนหนทาง ไม่รู้จะทำอย่างไรดี?
ท่านหลวี่ต้งปิน เมื่อได้ยินดังนั้น  คิดในใจว่า  
คาดไม่ถึงว่าชาวโลกมีจิตใจดีงามเช่นนี้ แม้แต่เด็กน้อย ตัวแค่นี้
ยังรู้จักกตัญญูบุพการี ช่างน่าซาบซึ้งยิ่งนัก จึงกล่าวกับเด็กน้อยว่า
เอาล่ะ ข้าจะช่วยอนุเคราะห์เจ้าเอง
กล่าวจบ ก็ใช้นิ้วชี้ไปยังหินก้อนหนึ่ง ที่อยู่ข้างทาง
หินก้อนนั้นก็กลายเป็นทองคำสว่างเรืองรองขึ้นมาทันที  น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
านหลวี่ต้งปินหยิบทองคำก้อนนั้นขึ้นมา แล้วส่งให้กับเด็กน้อย
แต่หนูน้อยกลับส่ายหน้าปฏิเสธ เขากล่าวว่า “ข้าไม่เอา!
ท่านหลวี่ ต้งปิน รู้สึกฉงน คิดในใจว่าทำไมชาวโลกถึงได้มีจิตใจดีงามเช่นนี้
นี่ขนาดข้าให้ทองคำก็ไม่เอา จึงถามเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูว่า
หนูน้อย เมื่อเจ้าไม่เอาทอง ถ้าเช่นนั้นเจ้าอยากได้อะไร ? ”
ข้าจะอยากได้นิ้วชี้ของท่าน! เด็กน้อยพูดตอบ
เจ้าจะเอานิ้วชี้ของข้าไปทำไม? ” ท่านหลวี่ต้งปินถามด้วยความสงสัย
ทองคำ ที่ท่านให้ แม้มีราคาสูง แต่สักวันหนึ่ง ต้องใช้หมดอยู่ดี
หากท่านมอบนิ้วชี้ของท่านให้ข้า เวลาข้าไม่มีเงิน
ก็สามารถเอามันออกมาเสกทองได้ตลอดเวลา !
ท่านหลวี่ต้งปินเมื่อได้ฟังดังนั้น รู้สึกผิดหวังยิ่งนัก 
ได้ตระหนักแก่ใจว่าความโลภของเวไนยยังคงสั่งสมมากมากมาย
แม้แต่เด็กน้อยที่จิตใจบริสุทธิ์ ยังถูกเงินตราครอบงำได้ถึงเพียงนี้
ความโลภของมนุษย์  คือสันดานนอนเนื่อง แม้แต่เด็กที่ไม่ประสาอะไร
ก็ยังถูกความโลภครอบงำ ดั่งคำกล่าวของศาสนาปราชญ์ที่ว่า  กิน กาม จิต
ศาสนาพุทธกล่าวว่า กิน กาม เกียรติ ” 
แม้ทุกคนต่างก็มี แต่ควรควบคุมให้เหมาะสม
และควรเข้าใจหลักเหตุผลที่ว่า มากตัณหาจะพาวิบัติ

沒有留言:

張貼留言