เมตตาธรรม２

顏淵問仁。
เหยียน เอวียน เวิ่น เหยิน
เอี๋ยน เอวียน เรียนถามบรมครูขงจื่อ เรื่องเมตตาธรรม
子曰：「克己復禮為仁。
จื่อ เอวีย ： เค่อ จี่ ฟู่ หลี่ เหวย เหยิน
บรมครูขงจื่อกล่าวว่า ：
ควบคุมความทะยานอยากของตนเอง แล้วจึงไปดำเนินในจริยธรรม นั่นก็คือ เมตตาธรรม
一日克己復禮，天下歸仁焉。
อี๋ ยื่อ เค่อ จี่ ฟู่ หลี่,เทียน เซี่ย กุย เหยิน เยียน
หากว่าวันใดทำได้จริง คนทั่วหล้าก็จะยกย่องเจ้าว่าเป็นผู้มีเมตตาธรรม
為仁由己，而由人乎哉？」
เหวย เหยิน อิ๋ว จี่, เอ๋อร์ อิ๋ว เหยิน ฮู ไจ
ต้องดำเนินเมตตาธรรมด้วยตนเอง, จะให้ผู้อื่นดำเนินแทนได้อย่างไร
顏淵曰：「請問其目？」
เอี๋ยน เอวียน เอวีย ：ฉิ่ง เวิ่น ฉี มู่
เอี๋ยน เอวียนถามอีกว่า “ การดำเนินเมตตาธรรม มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?”
子曰：「非禮勿視，
จื่อ เอวีย：เฟย หลี่ อู้ ซื่อ
บรมครูขงจื่อกล่าวว่า “สิงที่ผิดจริยธรรมอย่าดู
非禮勿聽，
เฟย หลี่ อู้ ทิง
สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าฟัง
非禮勿言，
เฟย หลี่ อู้ เหยียน
สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าพูด
非禮勿動。」
เฟย หลี่ อู้ ต้ง
สิ่งที่ผิดจริยธรรมอย่าทำ

顏淵曰：「回雖不敏，請事斯語矣。
เอี๋ยน เอวียน：หุย ซุย ปู้ หมิ่น, ฉิ่ง ซื่อ ซือ อวี๋ อี่
เอี๋ยน เอวียน กล่าวว่า “แม้ศิษย์จะไม่ฉลาด แต่ก็จะนำคำสอนของอาจารย์ไปปฏิบัติ

เมตตาธรรม

子貢問:「為仁」。
จื่อ ก้ง เวิ่น : 「เหวย เหยิน」
จื่อก้งเรียนถามบรมครูขงจื่อ ถึงวิธีการบ่มเพาะเมตตาธรรม
子曰：「工欲善其事，
จื่อ เอวีย 　กง อวี้ ซั่น่ ฉี ซื่อ
บรมครูขงจื่อกล่าวว่า “ ถ้านายช่างปรารถนาจะให้งานสมบูรณ์
必先利其器。
ปี้ เซียน ลี่ ฉี ชี่
ก็ต้องมีเครื่องมือที่ดีพร้อมก่อน
居是邦也，事其大夫之賢者，
จวี ซื่อ ปัง เหย่, ซื่อ ฉี ไต้ ฟู จือ เสียน เจ่อ
ในเมื่ออาศัยอยู่ในบ้านเมืองนี้ อันดับแรกก็ต้องรู้จักไปรับใช้อำมาตย์ที่ดีมีคุณธรรมของที่นี่ก่อน
友其士之仁者。
โหย่ว ฉี ซื่อ จือ เหยิน เจ่อ
และคบหาบัณฑิตที่มีเมตตาธรรมของบ้านเมืองนี้ด้วย

พื้นฐานการดับความโกรธ

หนึ่งในเนื้อหาหนังสือ "บำเพ็ญบุญวาสนาและปัญญา"
 แปลโดยหลังฮว๋า"
พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า “คนที่โกรธคนอื่น ตนเองก็ใช่จะดีกว่าเขา”  ควรรู้ว่า “เวลาเขาโกรธเรา เราโกรธตอบเขา”  แสดงว่าเราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขา” พระองค์ทรงสรรเสริญผู้ที่มีความเมตตา มีความรักและความปรารถนาดีต่อกัน  หากเราขาดซึ่งพื้นฐานคุณธรรมเหล่านี้ ควรแล้วหรือจะกล่าวอ้างว่าตนนั้นเป็นสาวกของของพุทธองค์ หรือเป็นศิษย์ของพระอริยเจ้าทั้งหลาย
เวลาเขาโกรธ เราไม่โกรธตอบ นับว่าเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะใจตนเองได้ และเอาชนะใจผู้คนได้ การเอาชนะใจตนเองได้ เอาชนะไฟอารมณ์ของตนเองได้ ยากยิ่งกว่าเอาชนะสงคราม เป็นการเอาชนะที่ประเสริฐสุด ยิ่งรู้ว่าเขาโกรธและ ขุ่นเคืองเรา  เราไม่แสดงอาการโกรธหรือขุ่นเคืองออกมา ก็จะเป็นผลดีทั้งสองฝ่าย ทั้งแก่ตนเองและคนที่โกรธเรา เพราะแน่นอนการทะเลาะเบาะแว้ง หรือลงไม้ลงมือประหัตประหารกันก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะเราได้ใช้ปัญญาและขันติธรรมตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

คำสอนปราชญ์ขงจื้อ

以尊重為貴　(อี่ จุน จ้ง เหวย กุ้ย)

ใช้หลักการเคารพให้เกียรติกัน เป็น สิ่งสำคัญ

以禮讓為貴     (อี่ หลี่ ลั่ง เหวย กุ้ย)

ใช้หลักการโอนอ่อน มีจริยต่อกัน เป็นสิ่งสำคัญ

以寬容為貴    (อี่ ควร หรง เหวย กุ้ย)

ใช้หลักการ ใจกว้าง โอบอุ้มให้อภัย เป็นสิ่งสำคัญ

以仁愛為貴    (อี่ เหยิน อ้าย เหวย กุ้ย)

ยึดเมตตาธรรม เปี่ยมด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ เป็นหลักสำคัญ

能忍能受，以和為貴。

(เหนิง เหริ่น เหนิง โซ่ว , อี่ เหอ เหวย กุ้ย)

ความมีขันติธรรม คือ สามารถอดทนและยอมรับเรื่องราว

ต่างๆได้ โดยอาศัยยึดหลักแห่งความสมานฉันท์เป็นสำคัญ

รู้เสียสละ จึงได้รับ

รู้เสียสละ จึงไร้รับ
รู้เสียสละ จึงได้รับ  แฝงนัยความหมายลึกซึ้ง
มีเสียสละ จึงจะรับ  หากไม่เสียสละ ย่อมไม่ได้รับ
เสียสละเล็กน้อย ก็จะได้รับผลเล็กน้อย
เสียสละยิ่งใหญ่ ย่อมได้รับผลเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่
ปรารถนาจะได้รับ ผลจากความดีที่สร้าง
ก่อนอื่นควรศึกษาการเสียสละทาน