2015年2月28日 星期六

ความถ่อมตน_ชีวิตกับปรัชญาประยุกต์2

*    ความถ่อมตน
ศิลปะในการซื้อใจคน ที่ขาดไปไม่ได้คือความถ่อมตน
ความถ่อมตน ทำให้ผู้คนอยากใกล้ชิด ผู้ใหญ่รักเอ็นดู
เพื่อนสนิทมิตรสหายเต็มใจให้ความช่วยเหลือเสมอ
ใครๆต่างยินดีร่วมแบ่งปันประสบการณ์
แลกเปลี่ยนความรู้ มุมมมองความคิด
ความถ่อมตนทำให้โลกทัศน์ของคุณกว้างขึ้น
ตรงกันข้ามหากคุณทำตัวดั่งน้ำเต็มแก้ว
ภูมิใจ เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองมากเกินไป
รอบข้างตัวคุณจะมีศรัตรูมากกว่ามิตร
ความลำพองตนที่คิดว่าตนเองนั้นแน่กว่าใคร
ทำให้เพื่อนพ้องต่างหลีกลี้หนีหาย
ใครๆ ต่อใครล้วนแหนงหน่าย ขยาดที่จะเข้าใกล้คุณ
ไม่มีใครกล้ากล่าวเตือน ไม่มีใครกล้าเสนอแนะสิ่งดีๆ
โลกทัศน์ของคุณจะแคบลง  ติดอยู่ในกรอบที่ตนเองสร้างขึ้น
และอาจต้องโดดเดี่ยว อยู่กับความสำเร็จจอมปลอม

ความถ่อมตน ที่ไร้จริตมายา คือศิลปะชั้นยอดในการจูงใจคน

2015年2月25日 星期三

สายใยแห่งครอบครัว

         คนโบราณกล่าวว่า "บ้านแต่ละบ้าน ต่างมีพระสูตรคัมภีร์ที่ยากศึกษาเข้าใจ"
ปีใหม่มีโอกาสได้คุยกับพี่ที่นับถือกันมานาน เขาเล่าให้ฟังถึงความประทับใจครอบครัวของน้องสาว 
        ครอบครัวนี้ทุกสัปดาห์จะมีกิจกรรมครอบครัวคือ ไปปั่นจักรยานด้วยกันทุกวันอาทิตย์ พ่อ แม่ ลูก จนเป็นความเคยชิน พอใกล้ถึงวันอาทิตย์ลูกๆก็จะถามว่า พรุ่งนี้พวกเราจะไปปั่นจักรยานที่ไหนกันดี ลูกๆต่างก็คอยลุ้นต้องความดีอกดีใจ และทุกคนดูมีความสุขมาก ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เมื่อถึงวันอาทิตย์ทุกคนก็จะมาพร้อมหน้ากัน ระหว่างพ่อแม่ลูก ไม่มีช่องว่างระหว่างกัน 
        พี่เขาเล่าให้ฟังว่า ในวันเสาร์หนึ่ง ชวนหลายชายอยู่เล่นที่บ้านต่อ หลานชายบอกว่า วันนี้ผมมีธุระต้องรีบกลับบ้าน พี่เขาถามว่า "ทำไมล่ะ ปกติก็ชอบอยู่ที่นี่นี่นา?" หลายชายบอกว่า "วันนี้ผมต้องไปซ่อมจักรยานกับคุณพ่อครับ"
       น้าชาย : ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย แค่ส่งไปให้ที่ร้านซ่อมก็หมดเรื่องแล้ว
       หลายชาย : ไม่เห็นต้องสิ้นเปลืองเลย พ่อผมมีอุปกรณ์ ทุกคนช่วยกันเดี๋ยวก็ซ่อมเสร็จแล้ว
      วันอาทิตย์พ่อของเขามารับตั้งแต่เช้าตรู่
พี่เขาบอกว่า ครอบครัวนี้ทำให้เขาประทับใจมาก จักรยานเสีย ความจริงแล้วแค่ส่งร้านซ่อมก็หมดเรื่อง แต่พวกเขากลับเลือกที่จะช่่วยกันซ่อมอย่างแข็งขัน ทำให้แต่ละคนผูกพันกัน ช่วยเหลือกัน กระชับสายในความผูกพันกัน หากส่งร้านซ่อมก็จบแค่นั้น
      ผู้เขียนเอง นั่งคิดนอนคิด ก็จริงนะ ทุกวันนี้แต่ละครอบครัว บางคนเลี้ยงลูกด้วยเงิน มีอะไรก็ทิ้งเงินไว้ให้ ให้ลูกๆ จัดการดูแลตัวเอง ดูแลกันเอง
       บางคนก้มหน้าก้มตาทำงาน คิดว่าตัวเองทำเพื่อครอบครัว แต่สุดท้ายลูกๆกลายเป็นเด็กมีปัญหา เกิดเรื่องต่างๆมากมาย จนทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่เข้าใจกัน ลูกๆคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก พ่อแม่ไม่เข้าใจ จึงหันไปติดเพื่อน มีอะไรก็คุยกันเพื่อน บางครั้งคบเพื่อนไม่ดี ก็ชักนำกันไปทำเรื่องราวผิดๆ พ่อแม่ก็โมโห สุดท้ายเกิดปัญหาครอบครัวไม่รู้จบ
          ปัญหาความไม่เข้าใจกัน เกิดจากไหน เราเคยคิดบ้างไหม เราเคยให้เวลากับครอบครัวของเราแค่ไหน บางครอบครัวเวลาผันผ่านไปเป็นปีสองปี หรือเป็นสิบปีก็ไม่เคยแม้แต่จะทานข้าวพร้อมหน้ากันสักมื้อ 
         อยากให้ทุกคนหันมาย้อนคิดถึงคนในครอบครัว จัดสรรแบ่งปันเวลาให้กับครอบครัวของตนเอง มีกิจกรรมร่วมกันระหว่างพ่อแม่ลูกและญาติเพื่อกระชับสายในใยแห่งความรักความผูกพัน ทลายกำแพงที่กางกั้นทำให้ไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน
 

น้ำใจคนขับแท๊กซี่

        วันนี้อดนึกถึงน้ำใจของพี่คนขับรถแท๊กซี่คนหนึ่งไม่ได้
วันหนึ่ง เดือน ธันวาคม ปี 2013 เวลา18.00น. ระหว่างนั่งรถจากสุขสวัสดิ์เพื่อมาร่วมงานประชุมกิจกรรมมูลนิธิ พอลงจากรถ ก็รีบเข้าประชุม เพิ่งมารู้ทีหลังว่าลืมประเป๋าในรถแท๊กซี่ ในกระเป๋ามีมือถือไอโฟน บัตรเคดิต และที่สำคัญคือพาสปอร์ต บัตรประชาชน เอกสารสำคัญหลายอย่างอยู่ในนั้น ผู้เขียนร้อนรนใจมาก
        พอดีมีคนวิ่งมาบอกว่ามีคนขับรถแท๊กซี่เอากระเป๋ามาส่งให้ ผู้เขียนดีใจมาก คิดในใจว่าเดี๋ยวต้องลงไปพบเขาให้ได้ ให้รางวัลตอบแทนน้ำใจดีงามเขาสักหน่อย พอลงมาชั้นล่าง ปรากฏว่าคนขับรถแท๊กซี่ลากลับไปแล้ว ผู้เขียนคิดในใจว่าดูสิคนดีๆ ทำความดีโดยไม่รอแม้แต่จะรับความขอบคุณ รู้สึกปลื้มใจมากที่ประเทศไทยเรายังมีคนดีมีน้ำใจแบบนี้
          จริงๆแล้วประเทศไทยของเรายังน่าอยู่มากกว่าหลายๆประเทศ น้ำใจ มิตรภาพ ความห่วงใยอาทรซึ่งกันและกัน ยังไม่ห่างหายไปจากสังคมไทย  เพียงแต่เรามัวแต่ทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน จนลืมนึกไปว่าหลายประเทศเขาอิจฉาแค่ไหนที่เราเป็นคนไทย

เรื่องเล่า-ชีวิตคนขับแท๊กซี่

เมื่อวานพอขึ้นรถแท๊กซี่ คุณลุงคนขับรถก็พูดเปรยขึ้นมาว่า "เวลาปุ๊บปั๊บผ่านไปเร็วเหลือเกิน เวลาของผมเหลือน้อยลงทุกที จริงไหมหนู? "
ไอ้เราก็ยิ้มๆ ตอบกลับไปว่า "ก็ไม่แน่หรอกค่ะ วัยรุ่นตายก่อนคนแก่ก็มีเยอะแยะ" คุณลุงฟังแล้วหัวเราะชอบใจ แต่ก็ไม่วายบ่นว่าเวลาของตัวเองเหลือน้อย
ถามคุณลุงว่า แล้วคุณลุงไม่อยู่กับครอบครัว อยู่กับลูกๆหรือคะ การได้อยู่กับครอบครัวน่าจะเป็นอะไรที่มีความสุขที่สุด
คุณลุงพูดอย่างจริงๆจังว่า " ลูกเขาก็อยู่กับลูกเมียของเขา ต่างคนก็มีหน้าที่ เราเลี้ยงเขาโตแล้ว เขาก็ต้องไปทำหน้าที่ดูแลครอบครัวเขา เรายังพอไหวยังดูแลตัวเองได้ ตอนนี้ก็มีหน้าที่เลี้ยงตัวเอง  ถึงแม้ว่าลุงมีสิทธิ์จะขอเงินลูกใช้  เพราะเลี้ยงเขามา ลุงขอเขาก็ต้องให้อยู่แล้ว แต่ลุงยังไม่คิดจะทำแบบนั้น"
ผู้เขียน : จิตใจของพ่อแม่ทุกคนคงเป็นแบบนี้ ห่วงแต่ลูกๆ ไม่เคยห่วงตัวเอง
คุณลุง : จริงนะหนู ตอนนี้ลุงยังดูแลตัวเองได้ ยังมีความสุขดีอยู่ หากวันไหนไม่มีตังจริงๆค่อยขอลูก ถ้าลูกไม่ให้ ก็ค่อยไปขอทานเขากิน ให้ลุงไปขโมย ฉกชิงวิ่งราว ลุงไม่เอาหรอก เกิดตำรวจไล่จับ ลุงวิ่งหนีไม่ทัน ไม่มีแรงหรอก ฮ่าๆๆ (พูดติดตลก)
(บันทึกวันที่24/2/2015)

2015年2月23日 星期一

ยังมีรถอีกขบวนที่เตรียมพร้อมเพื่อมารับเธอ

當你以為你錯過了那一班車, 其實...另一班車已準備好來接你了!
別再躲起來了,奮鬥到底,笑著迎接未來的那位!
ขณะที่เธอเข้าผิดว่าพลาดรถขบวนหนึ่งไป 
แท้ที่จริง...ยังมีรถอีกขบวนที่เตรียมพร้อมเพื่อมารับเธอ
อย่ามัวแต่ซ่อนหลบอยู่เลย ควรสู้ให้ถึงที่สุด ยิ้มรับคนใหม่ในอนาคตอันสดใส

ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ

眼神是內心真實感受的可靠指標。
你的悲傷、快樂、害羞、得意、緊張,
眼神都能真實反應內心的感受。
ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ฉายแววความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน
ความโศกเศร้าของเธอ ความสุข ความรู้สึกอาย รู้สึกลำพอง ตื่นเต้น....
แววตาจะฉายประกายซึ่งความรู้สึกนั้นที่ซ่อนอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ


มีกี่คนที่...คิดถึงคุณ

一個人的成就,不是以金錢衡量,
而是一生中,你善待過多少人,有多少人懷念你。
ความประสบสำเร็จของคนๆหนึ่ง ไม่ได้วัดคุณค่ากันที่เงินทองว่ามีมากน้อยเพียงไร แต่วัดกันที่ว่า ในชีวิตของคุณ คุณทำดีกับใครกี่คน  มีกี่คนที่...คิดถึงคุณ

2015年2月22日 星期日

"ชีวิตกับปรัชญาประยุกต์"

ปีใหม่ กับความตั้งใจทำหนังสือดีๆมีคุณภาพ เนื้อหาหัวใจสำคัญว่าด้วยเรื่อง "ชีวิตกับปรัชญาประยุกต์" อยากฟังความคิดเห็นจากทุกคนในมุมมองที่แตกต่าง เราไม่แบ่งแยกกันในเรื่องศาสนา ความคิดและปรัชญา เรามองมุมเดียวกันคือทำอย่างไรก็ได้ให้ตนเองมีความสุขที่แท้จริง และช่วยให้คนรอบข้างมีความสุข ร่วมกันสร้างนิมิตหมายดีๆให้เกิดขึ้นในสังคม
วันก่อนผู้เขียนไปขึ้นรถไฟฟ้าBRT ที่พระรามเก้าฯ บังเอิญรถเสียเวลา เลยมีโอกาสสังเกตเป็นคนเข้าแถวรอหยาวเหยียด หันซ้ายแลขวา เห็นคนส่วนใหญ่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับมือถือ สิบคน มีแค่หนึ่งคนที่สนใจอย่างอื่น แม้แต่ผู้เขียนเองก็เช่นกัน วันนั้นคิดถึงบางอย่าง สังคมของเราทุกวันนี้พัฒนาก้าวไกล เทคโนโลยี่ครบพร้อม แต่เรากำลังลืมบางอย่างหรือเปล่า?  ลืมทักทายซึ่งกัน ลืมความห่วงใยเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน สายใยมิตรภาพยังเหมือนเดิมอยู่ไหม...