บก.ชวนอ่านหนังสือ เสริมปัญญา หยั่งรากฐานธรรม
【นิทานตัวอย่าง】---ถูกหลอมสลักและสำนึกคุณ-- 雕琢與感恩
มีพระเถระท่านหนึ่งต้องการแกะสลักองค์ปฏิมาพระโพธิสัตว์เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัด ท่านจึงได้เดินทางขึ้นเขาเพื่อไปหาก้อนหินที่ดีที่สุด
หลังจากผ่านความยากลำบากนานัปการ ในที่สุดพระเถระก็เจอก้อนหินที่ตนต้องการ ระหว่างเดินทางกลับ นอกจากเขาได้ก้อนหินที่ดีที่สุดแล้ว ยังหยิบก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งติดมือกลับมาด้วย เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงภายในเวลา3เดือน เขารีบเอาหินก้อนที่คุณภาพดีที่สุดออกมาแกะสลักเป็นรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พอท่านทุบลงไปเท่านั้น ก้อนหินก็ร้องว่า “เจ็บเหลือเกิน”
พอทุบลงไปครั้งที่สอง มันก็ร้องเสียงดังว่า “ข้าทนไม่ไหวแล้ว”
พระเถระกล่าวว่า “แต่ข้าต้องการแกะสลักเจ้าเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์ให้ผู้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา” จากนั้นก็ทุบลงไปครั้งที่3 ก้อนหินทนไม่ไหวร้องเสียงดัง “อย่าทุบข้าอีกเลย ข้าเจ็บเหลือเกิน ไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว
พระเถระจนหนทาง จึงได้แต่นำก้อนหินนี้วางไว้ด้านข้าง แล้วหยิบก้อนหินธรรมดาออกมาแกะสลักแทนในขณะที่พระเถระกำลังทำการแกะสลักอยู่นี้ ก้อนหินธรรมดาก็รู้สึกเจ็บมากเหมือนกัน แต่มันก็พยายามอดทนอย่างยิ่งยวด เพราะมันรู้ว่าพระเถระจารย์ต้องการแกะสลักเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์
ดังนั้นเจ้าก้อนหินธรรมดาก้อนนี้จึงอดทนด้วยจิตใจสำนึกคุณอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณพระเถระจารย์ที่เหน็ดเหนื่อยลำบากเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง เพื่อที่จะเสริมสร้างมันให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นของล้ำค่า แล้วในที่สุดพระเถระจารย์ก็แกะสละรูปประติมาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่งดงามสมบูรณ์มาก นำมาวางไว้ในวัดให้ผู้คนทั้งหลายกราบไหว้สักการะบูชา
วัดแห่งนี้จึงเจริญรุ่งเรืองมีกลิ่นธูปที่ถูกจุดหอมขจร ทุกวันมีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามากมายเดินทางมาตั้งจิตอธิษฐานและขอพร ผ่านไปไม่กี่ปี ก้อนหินที่กลายเป็นเพียงแค่เศษหินก็กล่าวกับ ก้อนหินรูปพระโพธิสัตว์ว่า “เจ้าช่างโชคดีเหลือเกิน จากก้อนหินธรรมดาก็สามารถกลายเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ตัวข้าทั้งๆที่เป็นก้อนหินที่คุณภาพดีล้ำค่า กลับเป็นได้แค่ก้อนหินที่คนเขานำมาปูทางเดินเท่านั้น ทุกวันต้องถูกผู้คนเหยียบย่ำ ตกอยู่ภายใต้เท้าของพวกเขา
พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า “เจ้าก้อนหินคุณภาพดีเอ๋ย ในปีนั้นพระอาจารย์เห็นว่าเจ้าเป็นก้อนหินที่มีราคา คุณภาพดี จึงต้องการแกะสลักเจ้า ให้เจ้านั้นประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าในอานาคตของตนเองต้องทำอะไร อีกทั้งยังไม่มีจิตสำนึกคุณ ดังนั้นจึงอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานจากการแกะสลักเคี่ยวกรำไม่ได้ ละทิ้งโอกาสที่จะสามารถสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ จึงทำให้วันนี้ชะตาชีวิตของข้ากับเจ้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วเจ้าจะโทษใครได้เล่า”
เศษหินพูดอย่างจนใจว่า “หากรู้ก่อนล่วงหน้าถึงผลที่จะได้รับในวันนี้ ในตอนแรกไหนจะทำแบบนั้น” พระอาจารย์ต้องการมอบภาระอันยิ่งใหญ่และสำคัญให้กับข้า แต่ข้ากลับไม่รู้ถึงความทุ่มเทใจของท่านแม้แต่น้อย บัดนี้ เจ้ากลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่ผู้คนมากมายพากันกราบไหว้ ส่วนตัวข้ากลับเป็นเพียงเศษหินที่ถูกผู้คนทั้งหลายเหยียบย่ำ และบ่อยครั้งจะต้องดมกลิ่นอุจจาระของแมวและสุนัข ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทุกข์ที่ตัวข้าหาใส่ตัวเอง จะไปโทษใครได้!”
【นิทานตัวอย่าง】---ถูกหลอมสลักและสำนึกคุณ-- 雕琢與感恩
มีพระเถระท่านหนึ่งต้องการแกะสลักองค์ปฏิมาพระโพธิสัตว์เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัด ท่านจึงได้เดินทางขึ้นเขาเพื่อไปหาก้อนหินที่ดีที่สุด
หลังจากผ่านความยากลำบากนานัปการ ในที่สุดพระเถระก็เจอก้อนหินที่ตนต้องการ ระหว่างเดินทางกลับ นอกจากเขาได้ก้อนหินที่ดีที่สุดแล้ว ยังหยิบก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งติดมือกลับมาด้วย เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงภายในเวลา3เดือน เขารีบเอาหินก้อนที่คุณภาพดีที่สุดออกมาแกะสลักเป็นรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พอท่านทุบลงไปเท่านั้น ก้อนหินก็ร้องว่า “เจ็บเหลือเกิน”
พอทุบลงไปครั้งที่สอง มันก็ร้องเสียงดังว่า “ข้าทนไม่ไหวแล้ว”
พระเถระกล่าวว่า “แต่ข้าต้องการแกะสลักเจ้าเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์ให้ผู้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา” จากนั้นก็ทุบลงไปครั้งที่3 ก้อนหินทนไม่ไหวร้องเสียงดัง “อย่าทุบข้าอีกเลย ข้าเจ็บเหลือเกิน ไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว
พระเถระจนหนทาง จึงได้แต่นำก้อนหินนี้วางไว้ด้านข้าง แล้วหยิบก้อนหินธรรมดาออกมาแกะสลักแทนในขณะที่พระเถระกำลังทำการแกะสลักอยู่นี้ ก้อนหินธรรมดาก็รู้สึกเจ็บมากเหมือนกัน แต่มันก็พยายามอดทนอย่างยิ่งยวด เพราะมันรู้ว่าพระเถระจารย์ต้องการแกะสลักเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์
ดังนั้นเจ้าก้อนหินธรรมดาก้อนนี้จึงอดทนด้วยจิตใจสำนึกคุณอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณพระเถระจารย์ที่เหน็ดเหนื่อยลำบากเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง เพื่อที่จะเสริมสร้างมันให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นของล้ำค่า แล้วในที่สุดพระเถระจารย์ก็แกะสละรูปประติมาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่งดงามสมบูรณ์มาก นำมาวางไว้ในวัดให้ผู้คนทั้งหลายกราบไหว้สักการะบูชา
วัดแห่งนี้จึงเจริญรุ่งเรืองมีกลิ่นธูปที่ถูกจุดหอมขจร ทุกวันมีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามากมายเดินทางมาตั้งจิตอธิษฐานและขอพร ผ่านไปไม่กี่ปี ก้อนหินที่กลายเป็นเพียงแค่เศษหินก็กล่าวกับ ก้อนหินรูปพระโพธิสัตว์ว่า “เจ้าช่างโชคดีเหลือเกิน จากก้อนหินธรรมดาก็สามารถกลายเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ตัวข้าทั้งๆที่เป็นก้อนหินที่คุณภาพดีล้ำค่า กลับเป็นได้แค่ก้อนหินที่คนเขานำมาปูทางเดินเท่านั้น ทุกวันต้องถูกผู้คนเหยียบย่ำ ตกอยู่ภายใต้เท้าของพวกเขา
พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า “เจ้าก้อนหินคุณภาพดีเอ๋ย ในปีนั้นพระอาจารย์เห็นว่าเจ้าเป็นก้อนหินที่มีราคา คุณภาพดี จึงต้องการแกะสลักเจ้า ให้เจ้านั้นประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าในอานาคตของตนเองต้องทำอะไร อีกทั้งยังไม่มีจิตสำนึกคุณ ดังนั้นจึงอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานจากการแกะสลักเคี่ยวกรำไม่ได้ ละทิ้งโอกาสที่จะสามารถสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ จึงทำให้วันนี้ชะตาชีวิตของข้ากับเจ้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วเจ้าจะโทษใครได้เล่า”
เศษหินพูดอย่างจนใจว่า “หากรู้ก่อนล่วงหน้าถึงผลที่จะได้รับในวันนี้ ในตอนแรกไหนจะทำแบบนั้น” พระอาจารย์ต้องการมอบภาระอันยิ่งใหญ่และสำคัญให้กับข้า แต่ข้ากลับไม่รู้ถึงความทุ่มเทใจของท่านแม้แต่น้อย บัดนี้ เจ้ากลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่ผู้คนมากมายพากันกราบไหว้ ส่วนตัวข้ากลับเป็นเพียงเศษหินที่ถูกผู้คนทั้งหลายเหยียบย่ำ และบ่อยครั้งจะต้องดมกลิ่นอุจจาระของแมวและสุนัข ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทุกข์ที่ตัวข้าหาใส่ตัวเอง จะไปโทษใครได้!”
เครดิต "หนังสือบำเพ็ญบุญวาสนากับปัญญา" หจ.เป่ยเฉิน
ISBN 978-616-7994-01-07
* มอบหนังสือธรรมะ ให้คนที่คุณรัก เป็นการเสริมส่งปัญญา
* สนใจอ่านฉบับเต็ม สั่งจองได้ เล่มละ 120 บาท
ISBN 978-616-7994-01-07
* มอบหนังสือธรรมะ ให้คนที่คุณรัก เป็นการเสริมส่งปัญญา
* สนใจอ่านฉบับเต็ม สั่งจองได้ เล่มละ 120 บาท
沒有留言:
張貼留言