2016年12月20日 星期二

แรงบันดาลใจ

ในชีวิตหนึ่งของคนเรา ไม่ได้เกิดมาพร้อมทุกอย่าง
แต่ไม่มีอะไรที่คนอื่นทำได้ แล้วเราทำไม่ได้
สำคัญคือ ค้นหาตัวเองให้เจอ อย่าหยุดที่จะฝัน
และที่สำคัญ ลงมือทำด้วยตัวเอง อย่างกล้าหาญ

2016年12月17日 星期六

รับพิมพ์หนังสือธรรมะ ออกแบบปก จัดรูปเล่มฟรี โดยทีมงานมืออาชีพ

รับพิมพ์หนังสือธรรมะ ออกแบบปก จัดรูปเล่มฟรี
โดยทีมงานมืออาชีพ

อยากพิมพ์หนังสือธรรมะเพื่อแจกฟรี สร้างวิทยาธรรมเป็นทาน
ไม่ยากอย่างที่คิด คุยกับเราได้
เรามุ่งหวังเพื่อเผยแพร่ธรรม ไม่มุ่งเน้นธุรกิจ
ทำงานด้วยใจรัก และมีมิตรภาพ

ติดต่อเรา
หจ.เป่ยเฉิน
098-827-6319
089-200-3909

LINE: beichen.book

* สำนักพิมพ์จัดตั้งตามกฏหมาย
* รับผิดชอบงาน ส่งตรงตามเวลา

รับพิมพ์หนังสือธรรมะ ออกแบบปก จัดรูปเล่มฟรี

การให้ความรู้ใดๆ มิสู้ให้ความรู้เพื่อโน้มนำให้บังเกิดปัญญา ให้ผู้รับกระจ่างแจ้งในหลักเหตุผล สามารถดำรงชีวิตด้วยความเข้าใจและไม่เดินผิดทาง ผู้ให้และผู้รับ ต่างมีความสุขใจอย่างแท้จริง
* รับพิมพ์หนังสือธรรมะ พุทธมหายาน, พุทธหินยาน,หนังสืออนุตตรธรรม
ออกแบบปกฟรี โดยทีมงานมืออาชีพ ราคามิตรภาพ เพื่อส่งเสริมการแพร่ธรรม
* เรารับพิมพ์งาน ซึ่งท่านมีเนื้อหาอยู่แล้ว ต้องการให้จัดหน้า ออกแบบรูปเล่ม และพิมม์ในนามของท่านเอง พูดคุยกับเราได้ ไม่ผิดหวัง
* สำหรับท่านที่อยากพิมพ์หนังสือธรรมะแจก แต่ไม่มีข้อมูล ต้องการให้เราคัดสรรค์ข้อมูลให้ เพื่อจะใช้แจกในวาระโอกาสสำคัญต่างๆ เรายินดีให้คำปรึกษา และพร้อมดำเนินการให้
* ต้องการร่วมพิมพ์หนังสือในนามสำนักพิมพ์เป่ยเฉิน และมูลนิธิการุณย์
หรือต้องการขออนุญาติลิขสิทธิ์ 
ติดต่อได้โดยตรง 0988276319,0892003909 เรามุ่งเน้นเพื่อส่งเสริมธรรม ไม่เน้นประโยชน์เพื่อธุรกิจ จึงไม่ปิดกั้นข้อเสนอดีๆจากทุกท่าน
* รับแปลหนังสือธรรมะ พุทธมหายาน วงการอนุตตรธรรม โดยแปลจากภาษาจีนเป็นไทย และช่วยท่านเรียบเรียง ส่งเสริมให้ทุกอาณาจักรธรรมและองค์กรแพร่ธรรม สามารถตีพิมพ์ผลงานของตัวเองได้ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และสิ่งดีงามเพื่อสังคม

หนังสือธรรมะ แจกฟรี ถวายเป็นพระราชกุศล

ข่าวแจ้งให้ทราบ
ทางสำนักพิมพ์ ร่วมกับมูลนิธิฟ้าการุณย์ HGF จะจัดพิมพ์หนังสือคัมภีร์ร้อยกตัญญูเล่มพิเศษ เพื่อแจกฟรีในงานถวายไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ตีพิมพ์ จำนวน 10,000 ขนาด 50 หน้า กระดาษถนอมสายตา , ตุ้นทุนพิมพ์เล่มละ 15 บาท สีทั้งเล่ม (หนังสือเล่มนี้ หน้าปกรูปพระบรมฉายาลักษณ์ ข้างในคัดสรรค์เนื้อหาแบบอย่างความกตัญญูของพระองค์ท่าน) ไม่่ทำเพื่อจำหน่าย
ในนามชาวไทย ร้อยรวมใจสานต่อคุณธรรมกตัญญู และผู้ปฏิบัติธรรมทุกองค์กร ร่วมกับมูลนิธิฟ้าการุณย์
ยอดร่วมพิมพ์ครบ จัดพิมพ์ทันที การจัดพิมพ์ครั้งนี้เป็นการทำด้วยใจ ไม่แสวงผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น
เหตุผลที่ขอเชิญทุกท่านร่วมบุญกันในวันนี้ เนื่องจากพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (ในพระบรมโกศ) เป็นมหาราชผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ อีกทั้งพระองค์ได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดี ให้ชาวไทยทุกคนได้เห็นเป็นประจักษ์จัด ด้วยความเสมอต้นเสมอปลายตลอดมา
ทุกท่านมีความประสงค์ร่วมจัดพิมพ์กี่เล่ม แล้วแต่กำลังศรัทธา หรือสามารถบอกต่อทุกคนที่ต้องการร่วมกันทำความดีในครั้งนี้
สำนักพิมพ์จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย และมีมูลนิธิรับรองถูกต้องตามกฏหมาย ความดีที่ทุกคนร่วมกันทำเพื่อถวายพ่อหลวงในครั้งนี้ จะไม่ถูกบดบังใดๆ

มุ่งสู่ดวงตะวัน

บก.ชวนคุย
แม้ไม่ใช่เกิดจากท้องเดียวกัน แต่เป็นพี่น้องร่วมโลกใบเดียวกัน
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ตลอดไป ...ตราบที่ลมหายใจยังอยู่
เราจะก้าวไปด้วยกัน มุ่งสู่แสงตะวัน...........
วันเวลาของชีวิตมันผ่านไป รวดเร็ว น่าใจหาย
ก้าวจนมาถึงวันนี้ ไม่ใช่เวลาให้หันย้อนกลับไปข้างหลัง
ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไร ปัจจุบันเท่านั้น ที่สำคัญสุด
จากนาทีนี้ไป บอกกับใจเอาไว้ให้เข้มแข็ง
ที่ควรทำ คือมองไปข้างหน้า แล้วก้าวมุ่งไปด้วยหัวใจทะนง
อย่ายอมแพ้ต่ออุปสรรคใดๆ อย่าไปแคร์ใครต่อใครจนเกินไป
เพราะตัวเราคือเจ้าชีวิตของตัวเรา
โชคชะตาวันข้างหน้าเป็นอย่างไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหมอดู
โชคชะตาแม้ฟ้าลิขิต แต่ก็สามารถกุมไว้ได้ในกำมือ
ตัวของเรา คือผู้คุมบังเหียนชะตาชีวิต ต้องเชื่อมั่นใจตนเอง
หาญกล้ามุ่งสู่แสงตะวัน จากนี้ชั่วนิรันดร์ หันหลังให้เถิดกับความมืดบอด
จากสายลมแห่งความหวังดี....."หลังอว๋า"

ผู้บำเพ็ญธรรมจริง



บก.ชวนคิด
ผู้บำเพ็ญธรรมจริง จะไม่หลงผิด เมื่อรู้ว่าธรรมะที่ได้รับมีความวิเศษสูงส่ง เขาจะประคองรักษาไว้ทุกขณะจิต และนำไปดำเนินปฏิบัติจริง สร้างบุญจริงกุศลแท้ สร้างคุณงามความดี
โบราณมีคำกล่าวว่า“ความดีงาม” คือสิ่งประเสริฐที่สุดในโลกปราชญ์เมิ่งจื่อกล่าวว่า “แรกเริ่มเดิมทีจิตใจผู้คนล้วนบริสุทธิ์งดงามมาก”
แต่คนสมัยปัจจุบัน กลับไม่เกรงกลัวในเรื่องบาปบุญคุณโทษ ทำความผิดกันเป็นเรื่องปกติ จนมีทัศนคติที่ผิดๆ ว่าสามารถอาศัยวัตถุมาไถ่ถอนความผิดได้ ชาวโลกยังไม่เข้าใจในเรื่องการบุญจริงกุศลแท้ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการบำเพ็ญสำเร็จธรรม
มีคำกล่าวว่า “ไม่มีอริยะใดในโลก ที่ไม่ภักดีไม่กตัญญู ไม่มีเทพเทวาใดบนสรวงสวรรค์ ที่ไร้กุศลและไร้คุณธรรม” ดังนั้นการจะบำเพ็ญสำเร็จได้นั้นจำเป็นต้องมีบุญจริงกุศลแท้ ซึ่งมาจากการลงมือปฏิบัติจริง
เครดิตหนังสือ "บำเพ็ญสัมมาปัญญา" ....หลังฮว๋าแปล

บก.ชวนคิด คัมภีร์วัชรสูตรกล่าวว่า

บก.ชวนคิด
คัมภีร์วัชรสูตรกล่าวว่า 
“หากพระโพธิสัตว์ทำได้ถึงการให้ทานโดยไม่ยึดติด 
อานิสงส์ที่ได้รับนั้นมากมายจนมิอาจประมาณได้”
คัมภีร์ลิ่วจู่ถันจิงกล่าวว่า
ทุกความคิดไร้การยึดติด
สำแดงศักยภาพของจิตอยู่เสมอ นี่เรียกว่า “บุญกุศล”
ย้อนพิจารณาตนเอง ปรับปรุงไขนิสัยอารมณ์ความเคยชินที่ไม่ดี
ละบาปบำเพ็ญบุญ ยังประโยชน์แก่เวไนย คือ “บุญจริงกุศลแท้”
คัมภีร์เซิ่งหมันจิงกล่าวว่า
ความชั่วหมดสิ้นเรียกว่า “บุญ”
ความดีเต็มเปี่ยมเรียกว่า “กุศล”
ความหมายก็คือ หากสามารถชะล้างอุปนิสัยที่ไม่ดีให้สะอาด
หมดจด คือ “บุญ” ปฏิบัติความดีพร้อมสมบูรณ์ เรียกว่า “กุศล”
คัมภีร์เต้าเต๋อจิงกล่าวว่า
“การบำเพ็ญธรรม คือการขจัดอารมณ์ความอยาก
และความคิดฟุ้งซ่าน”
คัมภีร์ลิ่วจู่ถันจิง กล่าวว่า
การสำแดงสรรพธรรมจากจิตนั่นคือ “บุญ”
จิตใจที่ห่างจากความคิดฟุ้งซ่านนั่นคือ “กุศล”
ทุกขณะความคิดไม่ห่างจากจิตนั่น คือ “บุญ”
เมื่อจิตสำแดงศักยภาพโดยไร้การยึดติด
ไม่ถูกแปดเปื้อนด้วยอาสาวะ นั่นคือ “กุศล”
อนุเคราะห์ชาวโลก ฉุดช่วยผู้คน ก็คือ บุญกุศล
การบำเพ็ญธรรม คือ “การควบคุมกำราบจิตตนและรักผู้คน”
การสร้างสามทาน มีความศรัทธาจริงใจ คือ “บุญจริงกุศลแท้”
มีคำกล่าวว่า “ผู้มีความศรัทธาจริงใจ ฟ้าย่อมตอบสนอง”
เครดิตหนังสือ "บำเพ็ญสัมมาปัญญา" ....หลังฮว๋าแปล

บก.ฝึกแปล ข้อคิดเตือนใจ

บก.ฝึกแปล
傷我的人原諒你
(ซัง หว่อ เตอะ เหยิน เอวี๋ยน เลี่ยง หนี่)
สำหรับคนที่ทำร้ายฉัน ,ฉันอภัยให้คุณ
我傷的人對不起
(หว่อ ซัง เตอะ เหยิน ตุ้ย ปู้ ฉี่)
ส่วนคนที่ถูกฉันทำร้าย, ฉันขอโทษ
愛我的人謝謝你
อ้าย หว่อ เตอะ เหยิน เซี่ยๆหนี่
สำหรับคนที่รักฉัน,ฉันขอบคุณมาก
我愛的人祝福你
(หว่อ อ้าย เตอะ เหยิน จู้.ฝู.หนี่)
สำหรับคนที่ฉันรัก,ฉันขออวยพรให้คุณ
陪我的人感激你
(เผย หว่อ เตอะ เหยิน กั่น จี หนี่)
สำหรับคนที่เคียงข้างฉัน,ฉันขอบคุณมาก
想我的人請繼續
(เสี่ยง หว่อ เตอะ เหยิน ฉิ่ง จี ซี่)
สำหรับคนที่คิดถึงฉัน,ฉันขอบคุณมาก
心累了休息休息
(ซิน เล่ย เลอ ซิว สี ซิว สี)
เมื่อใจเหนื่อยล้าแล้ว ก็พักสักหน่อย
人累了放鬆放鬆
(เหยิน เล่ย เลอ ฟั่ง ซยง ฟั่ง ซยง)
คนเราเมื่อเหน็ดเหนื่อย ก็ควรตัวเองตามสบายบ้าง
失去的不再回來
(ซือ ชวี่ เตอะ ปู๋ ไจ้ หุย ไหล)
สิ่งที่สูญเสียไปแล้ว ไม่อาจหวนคืนกลับมา
到來的更加珍惜
(เต้า ไหล เตอะ เกิ้ง เจีย เจิน สี)
อะไรที่มาอยู่ในชีวิต ยิ่งควรถนอมรักษาไว้

ปล่อยวาง



เราจะบำเพ็ญปัญญาอย่างไร?
*ปล่อยวาง
ปล่อยวางการแสวงหาชื่อเสียงลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง ละทิ้งความสุขสบายทางวัตถุ จิตใจจะต้องให้ว่าง จึงจะบังเกิดปัญญาอันแยบยล
*บำเพ็ญจิต อย่าได้ลุ่มหลงไปกับวิถีทั้งหลายที่ลวงล่อหลอก อย่าสับสนยึดติดในขันธ์ห้า กายสังขารรูปลักษ์จอมปลอม ขจัดทิฐิความดื้อรั้นยึดติด และความทุกข์กลัดกลุ้มของตนเองทิ้งไป
▲สดับ---หมั่นศึกษาหลักพุทธธรรม---ใช้หูฟังหลักธรรม
▲คิดพิจารณา—ศึกษาให้ถ่องแท้หลักสัจธรรม--ใช้ใจคิดพิจารณา
▲บำเพ็ญ---ยืนหยัดดำรงตน ไปดำเนินปฏิบัติ---อาศัยการปฏิบัติอย่างจริงๆจังๆ สามารถมอบใจที่เปี่ยมด้วยความรักให้ผู้อื่น---คือบุญวาสนา—เช่นนี้จึงสามารถสร้างบุญวาสนาให้ผู้อื่นได้ และไม่เป็นการก่อกรรม หากสามารถขจัดความทุกข์กลัดกลุ้มทิ้งไปได้---ก็คือมีปัญญา—จึงสามารถปรับเปลี่ยนมุมมอง ความคิด---หลุดพ้นจากจากบ่วงพันธนาการทั้งมวลได้อย่างแท้จริง
เครดิต "หนังสือบำเพ็ญบุญวาสนากับปัญญา" หจ.เป่ยเฉิน
ISBN 978-616-7994-01-7
* มอบหนังสือธรรมะ ให้คนที่คุณรัก เป็นการเสริมส่งปัญญา
* สนใจอ่านฉบับเต็ม สั่งจองได้โดยตรง เล่มละ 120 บาท

เสริมปัญญา หยั่งรากฐานธรรม

บก.ชวนอ่านหนังสือ เสริมปัญญา หยั่งรากฐานธรรม
【นิทานตัวอย่าง】---ถูกหลอมสลักและสำนึกคุณ-- 雕琢與感恩
  มีพระเถระท่านหนึ่งต้องการแกะสลักองค์ปฏิมาพระโพธิสัตว์เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัด ท่านจึงได้เดินทางขึ้นเขาเพื่อไปหาก้อนหินที่ดีที่สุด
หลังจากผ่านความยากลำบากนานัปการ ในที่สุดพระเถระก็เจอก้อนหินที่ตนต้องการ ระหว่างเดินทางกลับ นอกจากเขาได้ก้อนหินที่ดีที่สุดแล้ว ยังหยิบก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งติดมือกลับมาด้วย เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงภายในเวลา3เดือน เขารีบเอาหินก้อนที่คุณภาพดีที่สุดออกมาแกะสลักเป็นรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พอท่านทุบลงไปเท่านั้น ก้อนหินก็ร้องว่า “เจ็บเหลือเกิน”
พอทุบลงไปครั้งที่สอง มันก็ร้องเสียงดังว่า “ข้าทนไม่ไหวแล้ว”
  พระเถระกล่าวว่า “แต่ข้าต้องการแกะสลักเจ้าเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์ให้ผู้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา” จากนั้นก็ทุบลงไปครั้งที่3 ก้อนหินทนไม่ไหวร้องเสียงดัง “อย่าทุบข้าอีกเลย ข้าเจ็บเหลือเกิน ไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว
พระเถระจนหนทาง จึงได้แต่นำก้อนหินนี้วางไว้ด้านข้าง แล้วหยิบก้อนหินธรรมดาออกมาแกะสลักแทนในขณะที่พระเถระกำลังทำการแกะสลักอยู่นี้ ก้อนหินธรรมดาก็รู้สึกเจ็บมากเหมือนกัน แต่มันก็พยายามอดทนอย่างยิ่งยวด เพราะมันรู้ว่าพระเถระจารย์ต้องการแกะสลักเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์
ดังนั้นเจ้าก้อนหินธรรมดาก้อนนี้จึงอดทนด้วยจิตใจสำนึกคุณอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณพระเถระจารย์ที่เหน็ดเหนื่อยลำบากเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง เพื่อที่จะเสริมสร้างมันให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นของล้ำค่า แล้วในที่สุดพระเถระจารย์ก็แกะสละรูปประติมาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่งดงามสมบูรณ์มาก นำมาวางไว้ในวัดให้ผู้คนทั้งหลายกราบไหว้สักการะบูชา
วัดแห่งนี้จึงเจริญรุ่งเรืองมีกลิ่นธูปที่ถูกจุดหอมขจร ทุกวันมีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามากมายเดินทางมาตั้งจิตอธิษฐานและขอพร ผ่านไปไม่กี่ปี ก้อนหินที่กลายเป็นเพียงแค่เศษหินก็กล่าวกับ ก้อนหินรูปพระโพธิสัตว์ว่า “เจ้าช่างโชคดีเหลือเกิน จากก้อนหินธรรมดาก็สามารถกลายเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ตัวข้าทั้งๆที่เป็นก้อนหินที่คุณภาพดีล้ำค่า กลับเป็นได้แค่ก้อนหินที่คนเขานำมาปูทางเดินเท่านั้น ทุกวันต้องถูกผู้คนเหยียบย่ำ ตกอยู่ภายใต้เท้าของพวกเขา
     พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า “เจ้าก้อนหินคุณภาพดีเอ๋ย ในปีนั้นพระอาจารย์เห็นว่าเจ้าเป็นก้อนหินที่มีราคา คุณภาพดี จึงต้องการแกะสลักเจ้า ให้เจ้านั้นประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าในอานาคตของตนเองต้องทำอะไร อีกทั้งยังไม่มีจิตสำนึกคุณ ดังนั้นจึงอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานจากการแกะสลักเคี่ยวกรำไม่ได้ ละทิ้งโอกาสที่จะสามารถสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ จึงทำให้วันนี้ชะตาชีวิตของข้ากับเจ้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วเจ้าจะโทษใครได้เล่า”
 เศษหินพูดอย่างจนใจว่า “หากรู้ก่อนล่วงหน้าถึงผลที่จะได้รับในวันนี้ ในตอนแรกไหนจะทำแบบนั้น” พระอาจารย์ต้องการมอบภาระอันยิ่งใหญ่และสำคัญให้กับข้า แต่ข้ากลับไม่รู้ถึงความทุ่มเทใจของท่านแม้แต่น้อย บัดนี้ เจ้ากลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่ผู้คนมากมายพากันกราบไหว้ ส่วนตัวข้ากลับเป็นเพียงเศษหินที่ถูกผู้คนทั้งหลายเหยียบย่ำ และบ่อยครั้งจะต้องดมกลิ่นอุจจาระของแมวและสุนัข ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทุกข์ที่ตัวข้าหาใส่ตัวเอง จะไปโทษใครได้!”
เครดิต "หนังสือบำเพ็ญบุญวาสนากับปัญญา" หจ.เป่ยเฉิน
ISBN 978-616-7994-01-07
* มอบหนังสือธรรมะ ให้คนที่คุณรัก เป็นการเสริมส่งปัญญา
* สนใจอ่านฉบับเต็ม สั่งจองได้ เล่มละ 120 บาท

朱用純 家训 “คำสอนครอบครัวของท่านจูย่งฉุน”

ตัวอย่างงานแปลจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ในนามปากกา
"หลังฮว๋า" สำนักพิมพ์เป่ยเฉิน
朱用純 家训
“คำสอนครอบครัวของท่านจูย่งฉุน”
「原文」 黎明即起,灑掃庭除,要內外整潔;既昏便息,關鎖門戶,必親自檢點。
(เอวี๋ยน เหวิน) (หลี หมิง จี๋ ฉี่, ลี่ ส่าว ถิง ฉู, เย่า เน่ย ไว่ เจิ่ง เจี๋ย, จี้ ฮุน เปี้ยน สี, กวน สั่ว เหมิน ฮู่, ปี้ ชิน จื้อ เจี๋ยน เตี่ยน)
(เนื้อหาเดิม) รุ่งอรุณตื่นแต่เช้า รดน้ำสวน กวาดลานบ้าน ให้สะอาดภายนอกภายใน
ยามพลบค่ำจึงพักผ่อน ประตูลงกลอน ตรวจตราถ้วนถี่ด้วยตัวเอง
「原文」 一粥一飯,當思來處不易;半絲半縷,恒念物力維艱。
(เอวี๋ยน เหวิน) (อี้ โจว อี๋ ฟั่น, ตัง ซือ ไหล ชู่ ปู๋ อี้, ปั้น ซือ ปั้น หลวี่, เหิน เนี่ยน อู้ ลี่ เหวย เจียน)
(เนื้อหาเดิม) ข้าวต้ม ๑ ถ้วย ข้าวสวย ๑ ชาม คะนึงถึงที่มา มิได้โดยง่าย แม้เศษไหมหรือเศษด้าย ตรองอย่างรอบคอบ ใช่แรกมาง่าย
「原文」 宜未雨而綢繆,毋臨渴而掘井。
(เอวี๋ยน เหวิน) (อี๋ เว่ย อวี่ เอ๋อร์ โฉว โหมว , อู๋ หลิน เข่อ เอ๋อร์ เจวี๋ย จิ่ง)
(เนื้อหาเดิม) ก่อนฝนจะตก เตรียมพร้อมเสร็จ รองน้ำไว้ อย่ารอจนกระหายแล้วจึงค่อยขุดบ่อน้ำ
「原文」 自奉必須儉約,宴客切勿留連。
(เอวี๋ยน เหวิน) (จื้อ เฟิ่ง ปี้ ซวี เจี่ยน เอวีย , เยี่ยน เค่อ เชี่ย อู้ หลิว เหลียน)
(เนื้อหาเดิม) ตนใช้สอยต้องประหยัด ร่วมงานเลี้ยงอย่าติดลมหมาย
「原文」 器具質而潔,瓦缶勝金玉;飲食約而精,園蔬愈珍饈。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ชี่ จวี้ จื๋อ เอ๋อร์ เจี๋ย, ว๋า โฝ่ว เซิ่ง จิน อวี้, อิ่น สือ เอวีย เอ๋อร์ จิง, เอวี๋ยน ซู อวี้ เจิน ซิว)
(เนื้อหาเดิม) เครื่องใช้ไม้สอยสะอาดเรียบง่าย แค่เครื่องดินเผายังเหนือกว่าหยกทอง
ดื่มกินอาหารประหยัดเรียบง่าย แต่มีคุณค่า ผักในสวนครัวเลิศรสกว่า อาหารหรูราคาแพง
「原文」 勿營華屋,勿謀良田。
(เอวี๋ยน เหวิน) (อู้ อิ๋ง ฮว๋า อู, อู้ โหมว เหลียง เถียน)
(เนื้อหาเดิม) ไม่สรรค์สร้างอันคฤหาสน์หรูหรา ไม่โลภกว้านซื้อที่นาดีๆ
「原文」 三姑六婆,實淫盜之媒;婢美妾嬌,非閨房之福。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ซัน กู ลิ่ว ผอ, สือ อิ๋น เต้า จือ เหมย, ปี้ เหม่ย เชี่ย เจียว, เฟย กุย ฝาง จือ ฝู)
(เนื้อหาเดิม) ไม่จับกลุ่มคุยไร้สาระ เป็นสื่อชักนำตัณหาชู้สาว สาวใช้น่ารัก เมียน้อยแสนสวย หาใช่ความผาสุกของครอบครัว
「原文」 童僕勿用俊美,妻妾切忌豔妝。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ถง ผู อู้ ย่ง จวิ้น เหม่ย, ชี เชี่ย เชีย จี้ เยี่ยน จวง)
(เนื้อหาเดิม) คนรับใช้อย่าได้เลือกดูดีเพียงอย่างเดียว อีกภรรยาอย่าได้ปล่อยแต่งเลิศหรูจนเกินงาม
「原文」 祖宗雖遠,祭祀不可不誠;子孫雖愚,經書不可不讀。
(เอวี๋ยน เหวิน) (จู่ จง ซุย เอวี่ยน, จี้ ซื่อ ปู้ เข่อ ปู้ เฉิง, จื่อ ซุน ซุย อวี๋, จิง ซู ปู้ เข่อ ปู้ ตู๋)
(เนื้อหาเดิม) บรรพชนแม้ล่วงลับ ควรเซ่นไหว้ด้วยศรัทธาจริงใจ ลูกหลานแม้ไม่ฉลาดให้เล่าเรียนใฝ่ศึกษา
「原文」 居身務期儉樸,教子要有義方。
(เอวี๋ยน เหวิน) (จวี เซิน อู้ ฉี เจี่ยน ผู, เจี้ยว จื่อ เย่า โหย่ว อี้ ฟาง)
(เนื้อหาเดิม) ดำรงชีพต้องเรียบง่ายและประหยัด สั่งสอนบุตรอาศัยหลักเหตุและผล
「原文」 莫貪意外之財,莫飲過量之酒。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ม่อ ทัน อี้ ไว่ จือ ไฉ, ม่อ อิ่น กั้ว เลี่ยง จือ จิ่ว)
(เนื้อหาเดิม) ไม่โลภอยากในทรัพย์สินโดยมิชอบ ไม่ดื่มสุรามากจนเกินควร
「原文」 與肩挑貿易,毋佔便宜;見窮苦親鄰,須加溫恤。
(เอวี๋ยน เหวิน) (อวี่ เจียน เทียว เม่า อี้, อู๋ จั้น เผียน อี๋, เจี้ยน ฉยง ขู่ ชิน หลิน, ซวี เจีย เวิน ซวี่)
(เนื้อหาเดิม) ต่อการค้าการคนหาบเร่ อย่ามุ่งแต่เอารัดเอาเปรียบ พบญาติมิตรและเพื่อนบ้านตกทุกข์ยาก ควรเห็นใจช่วยเหลือเขาด้วยความอบอุ่น
「原文」 刻薄成家,理無久享;倫常乖舛,立見消亡。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เค่อ ป๋อ เฉิง เจีย, หลี่ อู๋ จิ่ว เสียง, หลุน ฉาง ไกว ฉ่วน, ลี่ เจี้ยน เซียว หวัง)
(เนื้อหาเดิม) บ้านที่ใจจืดใจดำ มิอาจอยู่ดีมีสุขได้เนิ่นนาน หากผิดหลักคุณสัมพันธ์ จะนำพาวิบัติทันตาเห็น
「原文」 兄弟叔侄,須分多潤寡;長幼內外,宜法肅辭嚴。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ซยง ตี้ สู จื๋อ, ซวี เฟิน ตัว ยุ่น กว่า, จั่ง อิ้ว เน่ย ไว่, อี๋ ฝ่า ซู่ ฉือ)
(เนื้อหาเดิม) ระหว่างพี่กับน้อง อากับหลาน ผู้ที่มีฐานะดีกว่าควรจุนเจือผู้ที่มีฐานะด้อยกว่า ต่างเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ควรเคร่งครัดในระเบียบ สำรวมวาจาและอิริยาบถ
「原文」 聽婦言,乖骨肉,豈是丈夫?重資財,薄父母,不成人子。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ทิง ฟู่ เหยียน, ไกว กู่ โย่ว, ฉี่ ซื่อ จั้ง ฟู, จ้ง จือ ฉาย, ป๋อ ฟู่ หมู่, ปู้ เฉิง เหยิน จื่อ)
(เนื้อหาเดิม) เชื่อฟังแต่ภรรยา ทำร้ายสายสัมพันธ์พี่น้อง ไฉนเลยจะสมกับเป็นชายชาตรี?
มุ่งสมบัติเป็นสำคัญ ละเลยปรนนิบัติพ่อแม่ หาใช่คู่ควรความเป็นบุตรหรือ
「原文」 嫁女擇家婿,毋索重聘;娶媳求淑女,勿計厚奩。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เจี้ย หนวี่ เจ๋อ เจีย ซวี่, อู๋ สั่ว จ้ง พิ่น, ฉวี่ สี ฉิว สู หนวี่, อู้ จี้ โฮ่ว เหลียน)
(เนื้อหาเดิม) แต่งลูกสาวเฟ้นเขยดี อย่าได้เห็นแต่สินสอด แต่งสะใภ้หาสตรีมีคุณธรรม ไม่ใส่ใจในสินสอดทองมั่นเดิมของเจ้าสาว
「原文」 見富貴而生諂容者,最可恥;遇貧窮而作驕態者,賤莫甚。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เจี้ยน ฟู่ กุ้ย เอ๋อร์ เซิง ฉั่น หยง เจ่อะ, จุ้ย เขอ ฉื่อ, อวี้ ผิน ฉยง เอ๋อร์ จั้ว เจียว ไท่ เจ่อ, เจี้ยน ม่อ เสิน)
(เนื้อหาเดิม) เจอคนร่ำรวยสูงศักดิ์เข้าประจบสอพลอ ช่างน่าละอายเป็นที่สุด พบคนอนาถา ทำทีโอหังเชิดหน้าใส่ ชังต่ำต้อยมากยิ่งนัก
「原文」 居家戒爭訟,訟則終凶;處世戒多言,言多必失。
(เอวี๋ยน เหวิน) (จวี เจีย เจี้ย เจิง ซ่ง, ซ่ง เจ๋อ จง ซยง, ฉู่ ซื่อ เจี้ย ตัว เหยียน, เหยียน ตัว ปี้ ซือ)
(เนื้อหาเดิม) ร่วมชายคาเดียวกันมิควรต่อสู้เกิดคดีความ ฟ้องร้องกันท้ายสุดท้ายต่างหายนะ
เวลาออกสังคมพึงสำรวมในคำพูด หากมากความจะเสียหาย
「原文」 勿恃勢力而凌逼孤寡,勿貪口腹而恣殺牲禽。
(เอวี๋ยน เหวิน) (อู้ ซื่อ ซื่อ ลี่ เอ๋อร์ หลิง ปี กู กว่า, อู้ ทัน โข่ว ฟู่ เอ๋อร์ จื้อ ซา เซิง ฉิน)
(เนื้อหาเดิม) อย่าได้ใช้อำนาจข่มเหงรังแกเด็กกำพร้าและหญิงหม้าย อย่าได้โลภเพื่อลาภปาก เอาชีวิตสัตว์ตามใจตน
「原文」 乖僻自是,悔誤必多;頹隳自甘,家道難成。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ไกว พี่ จื้อ ซื่อ, หุ่ย อู้ ปี้ ตัว, ถุย ฮุย จื้อ กัน, เจีย เต้า หนัน เฉิง)
(เนื้อหาเดิม) อุปนิสัยอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย ก่อข้อพลาดเสียใจภายหลัง ตนเองผิดเอง ย่อมทำลายตนให้ตกต่ำ ยากสรร-สร้างครอบครัวการงานสำเร็จหมายได้
「原文」 狎暱惡少,久必受其累;屈志老成,急則可相依。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เสีย นี่ เอ้อ ซ่าว, จิ่ว ปี้ โซ่ว ฉี เล่ย, ชวี จื้อ เหล่า เฉิง, จี๋ เจ๋อ เข่อ เซียง อี)
(เนื้อหาเดิม) คบหาเด็กเกเร นานวันพลอยเดือดร้อนร่วมไปด้วย ควรใกล้ชิดผู้ทรงธรรม มากประสบการณ์ ยามคับขันย่อมพึ่งพาอาศัยได้
「原文」 輕聽發言,安知非人之譖愬?當忍耐三思;因事相
爭,焉知非我之不是?須平心暗想。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ชิง ทิง ฟา เหยียน, อัน จือ เฟย เหยิน จือ เจิ้น ซู่, ตัง เหยิ่น ไน่ ซัน ซือ, อิน ซื่อ เซี่ยง เจิง, เยียน จือ เฟย หว่อ จือ ปู๋ ซื่อ, ซวี ผิง ซิน อั้น เสี่ยง)
(เนื้อหาเดิม) ในเรื่องที่รับฟังมา หารู้ได้ว่าเป็นคำพูดใส่ร้ายใส่ความเขา ฉะนั้นควรขันติคิดใคร่ควรให้รอบคอบ อาจเป็นได้มีเรื่องราวกันมาก่อน จะรู้ไงใช่ความผิดของตน? ดังนั้นจึงควรสงบจิตลงไตร่ตรองให้จงดี
「原文」 施惠無念,受恩莫忘。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ซือ ฮุ่ย อู๋ เนี่ยน, โซ่ว เอิน ม่อ วั่ง)
(เนื้อหาเดิม) ทำคุณจิตอย่าติดยึด รับพระคุณอย่าได้ลืมเลือน
「原文」 凡事當留餘地,得意不宜再往。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ฝาน ซื่อ ตัง หลิว อวี๋ ตี้, เต๋อ อี้ ปู้ อี๋ ไจ้ หวั่ง)
(เนื้อหาเดิม) ทุกเรื่องราวเผื่อทางไว้ สมปรารถนารู้พอเพียงไม่แสวงหา
「原文」 人有喜慶,不可生妒嫉心;人有禍患,不可生喜幸心。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เหยิน โหย่ว สี่ ชิ่ง, ปู้ เข่อ เซิง จี้ ตู้ ซิน, เหยิน โหย่ว ฮั่ว ฮ่วน, ปู้ เข่อ เซิง สี่ ซิ่ง ซิน)
(เนื้อหาเดิม) เขาฉลองยินดีปรีดา อย่าได้เกิดจิตริษยา ผู้อื่นประสบเคราะห์ภัย อย่าได้เกิดจิตสาแก่ใจ
「原文」 善欲人見,不是真善;惡恐人知,便是大惡。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ซั่น อวี้ เหยิน เจี้ยน, ปู๋ ซื่อ เจิน ซั่น, เอ้อ ข่ง เหยิน จือ, เปี้ยน ซื่อ ต้า เอ้อ)
(เนื้อหาเดิม) ความดีที่อยากให้ผู้อื่นเห็น มิใช่ความดีที่จริงแท้ ทำความชั่วอันกลัวคนอื่นรู้นั่นแลชั่วมหันต์
「原文」 見色而起淫心,報在妻女;匿怨而用暗箭,禍延子孫。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เจี้ยน เซ่อ เอ๋อร์ ฉี่ อิ๋น ซิน, เป้า ไจ้ ชี หนวี่, นี่ เอวี้ยน เอ๋อร์ ย่ง อั้น เจี้ยน, ฮั่ว เหยียน จื่อ ซุน)
(เนื้อหาเดิม) พบนารีเกิดจิตราคะ ผลการกระทำนี้ส่งถึงภรรยาและบุตรีเฉกเช่นเดียวกัน เกิดบันดาลโทสะความแค้นวางกลอุบายลอบทำร้าย จนเกิดเคราะห์ภัยตกถึงลูกหลานตน
「原文」 家門和順,雖饔飧不繼,亦有餘歡;國課早完,即囊橐無餘,自得至樂。
(เอวี๋ยน เหวิน) (เจีย เหมิน เหอ ซุ่น, ซุย ยง ซุน ปู๋ จี้, อี้ โหย่ว อวี๋ ฮวน, กวั๋อ เค่อ เจ่า หวัน, จี๋ หนัง ถัว อู๋ อวี๋, จื้อ เต๋อ จื้อ เล่อ)
(เนื้อหาเดิม) ครอบครัวที่สมานฉันท์ แม้ยากจนแต่ก็มีสุข จ่ายหนี้จ่ายสิ้นภาษีหลวงแต่เนิ่น แม้เกลี้ยงกระเป๋า ย่อมสบายใจสุขสราษ
「原文」 讀書志在聖賢,非徒科第;為官心存君國,豈計身家。
(เอวี๋ยน เหวิน) (ตู๋ ซู จื้อ ไจ้ เซิ่ง เสียน, เฟย ถู เคอ ตี้, เหวย กวน ซิน ฉุน จวิน กวั๋อ, ฉี่ จี้ เซิน เจีย)
(เนื้อหาเดิม) ศึกษาตำราควรมุ่งมั่นเจริญตามรอยอริยะปราชญ์ มิใช่หวังเพียงแต่ได้ตำแหน่งแห่งขุนนาง ผู้เป็นขุนนางใจต้องภักดีต่อกษัตริย์ คำนึงถึงบ้านเมือง ไหนเลยจะคิดวางแผนเพียงเพื่อครอบครัวตน
「原文」 守分安命,順時聽天,為人若此,庶乎近焉。
(เอวี๋ยน เหวิน) (โส่ว เฟิ่น อัน มิ่ง, ซุ่น สือ ทิง เทียน, เหวย เหยิน ยั่ว ฉื่อ, สู ฮู จิ้น เยียน)
(เนื้อหาเดิม) ประคองรักษาบทบาทหน้าที่อันพึงปฏิบัติ รู้พอใจในชีวิตตน คล้อยตามกาล และเจตนาฟ้า หากทำได้เช่นนี้ ก็ใกล้เคียงหลักการดำรงตนแห่งอริยะปราชญ์
หมายเหตุ : ปราชญ์จูจื่อ (朱用純 (จู ย่ง ฉุน)) ท่านเป็นลูกศิษย์ของบรมครูขงจื่อ มีนามรองว่า ป๋อหลู อยู่ในช่วง ค.ศ. 1130 - 1200
* งานแปลมีลิขสิทธิ์ ผลงานแปล "หลังฮว๋า" สำนักพิมพ์เป่ยเฉิน

佛堂規則二十五條 (ฝอ ถัง กุย เจ๋อ เอ้อ สือ อู่ เถียว) “พุทธระเบียบ ๒๕ ข้อในพุทธสถาน”

ตัวอย่างผลงานแปล เจ้าของลิขสิทธิ์
ในนามปากกา "หลังฮว๋า" สำนักพิมพ์เป่ยเฉิน
佛堂規則二十五條
(ฝอ ถัง กุย เจ๋อ เอ้อ สือ อู่ เถียว)
“พุทธระเบียบ ๒๕ ข้อในพุทธสถาน”
(กำหนดโดยพระธรรมาจารย์)
1. 入壇整衣 (ยู่ ถัน เจิ่ง อี) เข้าสู่พุทธสถาน แต่งกายให้เรียบร้อย
《入壇整衣》:穿著宜整齊樸素,衣服必須有領有袖。進入佛堂應穿襪子,物穿短褲、無袖上衣、釦子要扣齊(以道場制服爲主)。
((ยู่ ถัน เจิ่ง อี) ชวน เจ่อ อี๋ เจิ่ง ฉี ผู่ ซู่, อี ฝู ปี้ ซวี โหยว หลิ่ง โหย่ว ซิ่ว, จิ้น ยู่ ฝอ ถัง อิง ชวน ฮว่า จื่อ, อู้ ชวน ต่วน คู่, อู๋ ซิ่ว ซั่ง อี, โค่ว จื่อ เย่า โค่ว ฉี (อี่ เต้า ฉ่าง จื้อ ฝู เหวย จู่))
“การเข้ามาพุทธสถาน” ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย (ไม่สีสันระรานตา) ใส่เสื้อมีคอปก มีแขน เข้ามาในห้องพระควรใส่ถุงน่อง ไม่ควรใส่กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด (เสื้อไม่มีแขน) กระดุมเสื้อติดให้เรียบร้อย (ยึดตามแบบฉบับชุดปั้นซื่อ หรือแบบฟอร์มในอาณาจักรธรรมเป็นหลัก)
2. 來參去辭 (ไหล ชัน ชวี่ ฉือ) ไปลามาไหว้
《來參去辭》:佛堂乃莊嚴之道場,老中渡世之法航,清靜神聖的地方,隨時有仙佛護持,故進佛堂要保持誠敬之心,禮靜諸佛,向老中參駕,離開要辭駕,如出告反面。
((ไหล ชัน ชวี่ ฉือ) ฝอ ถัง ไหน่ จวง เหยียน จือ เต้า ฉ่าง, เหลา หมู่ ตู้ ซื่อ จือ ฝ่า หัง, ชิง จิ้ง เสิน เซิ่ง เตอะ ตี้ ฟัง, สุย สือ โหย่ว เซียน ฝอ ฮู่ ฉือ, กู้ จิ้น ฝอ ถัง เย่า เป่า ฉือ เฉิง จิ้ง จือ ซิน, หลี่ จิ้ง จู ฝอ, เซี่ยง เหลา หมู่ ชัน เจี้ย, หลี ไค เย่า ฉือ เจี้ย หยู ชู เก้า ฝั่น เมี่ยน)
พุทธสถานคืออาณาจักรธรรมที่ศักดิ์สิทธิ์สง่างาม เป็นนาวาธรรมของ พระอนุตตรธรรมมารดา ที่ใช้เพื่อการปกโปรดกอบกู้ฉุดช่วยโลก เป็นสถานที่บริสุทธิ์ มีเซียนพุทธะคอยพิทักษ์คุ้มครองตลอดเวลา ดังนั้นมาสถานธรรมต้องประคองรักษาจิตเคารพศรัทธาจริงใจ แสดงจริยะด้วยความเคารพเซียนพุทธะ เมื่อมาถึงให้กราบพระบาทพระอนุตตรธรรมมารดา เวลาจะจากไปให้กราบลาพระบาท เช่นเดียวกันกับการไปลามาไหว้
3. 先乾後坤 (เซียน เฉียน โฮ่ว คุน) ชายก่อน-หญิงทีหลัง
《先乾後坤》:如乾坤同時進佛堂,以乾道先參駕,坤道再參駕。(如有坤道前輩,則以坤道先行)
((เซียน เฉียน โฮ่ว คุน) หยู เฉียน คุน ถง สือ จิ้น ฝอ ถัง, อี่ เฉียน เต้า เซียน ชัน เจี้ย, คุน เต้า ไจ้ ชัน เจี้ย, (หยู โหย่ว คุน เต้า เฉียน เป้ย, เจ๋อ อี่ คุน เต้า เซียน สิง))
ชายก่อนหญิงทีหลัง หมายถึง เช่นว่าเวลาชายหญิงเข้ามาในห้องพระพร้อมกัน ให้ผู้ชายกราบพระบาท (ชันเจี้ย) ก่อน (กรณีฝ่ายผู้หญิงมีนักธรรมอาวุโสอยู่ ก็ให้ฝ่ายผู้หญิงชันเจี้ยก่อน)
4. 男女分班 (หนัน หนวี่ เฟิน ปัน) ชายหญิงแบ่งแยก
《男女分班》:乾坤參駕後,男左女右分班,無論夫婦或朋友,亦要分班保持肅靜。
((หนัน หนวี่ เฟิน ปัน) เฉียน คุน ชัน เจี้ย โฮ่ว, หนัน จั่ว หนวี่ อิ้ว เฟิน ปัน, อู๋ ลุ่น ฟู ฟู่ ฮั่ว เผิง โหย่ว, อี้ เย่า เฟิน ปัน เป่า ฉือ ซู่ จิ้ง)
เวลาจะชันเจี้ย (กราบรับพระบาท) หรือฉือเจี้ย (กราบลาพระบาท) ผู้ชายจะยืนเข้าแถวฝั่งซ้าย ผู้หญิงจะยืนฝั่งขวา (ซ้ายมือรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์) ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยากัน หรือเป็นเพื่อนกันก็จะต้องแยกกันให้ชัดเจน และรักษาความสงบ
5. 舉步要輕 (จวี่ ปู้ เย่า ชิง) ก้าวเดินไม่ส่งเสียงดัง
《舉步要輕》:在佛堂輸入勿要從容輕步,談話要輕聲,不可任意喧嘩,以顯莊嚴道場禮儀。
((จวี่ ปู้ เย่า ชิง) ไจ้ ฝอ ถัง ซู ยู่ อู้ เย่า ฉง หยง ชิง ปู้, ถัน ฮว่า เย่า ชิง เซิง, ปู้ เข่อ เยิ่น อี้ เซวียน ฮว๋า, อี๋ เสี่ยน จวง เหยียน เต้า ฉ่าง หลี่ อี๋)
เข้าออกสถานธรรม ต้องย่างก้าวเบาๆ พูดคุยเสียงเบา ห้ามมิให้ส่งเสียงดังอึกทึกตามใจชอบ เพื่อให้ปรากฏถึงความศักดิ์สิทธิ์สง่างามของจริยพิธีในสถานธรรม
6. 不准亂躦 (ปู้ จุ่น ล่วน จวน) ไม่สับสนในสายทอง (ไม่สลับสายงานธรรม)
《不准亂躦》上課時,勿隨意走動,以免妨礙鄰座之道親聽課,影響班規及講道者之靈感。
((ปู้ จุ่น ล่วน จวน) ซั่ง เค่อ สือ, อู้ สุย อี้ โจ่ว ต้ง, อี๋ เหมี่ยน ฝั่ง อ้าย หลิน จั้ว จือ เต้า ชิน ทิง เค่อ, อิ๋ง เสี่ยง ปัน กุย จี๋ เจี่ยง เต้า เจ่อ จือ หลิง กั่น)
เวลาเข้าชั้นเรียน อย่าเดินไปเดินมาตามใจชอบ เพื่อจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อญาติธรรมที่กำลังฟังธรรม ส่งผลกระทบต่อกฏระเบียบของชั้นเรียน และส่งผลกระทบต่อสมาธิในการบรรยาย (หรือการสร้างบรรยากาศของผู้บรรยาย)
7. 出入肅靜 (ชู ยู่ ซู่ จิ้ง) เข้า-ออก รักษาความสงบ
《出入肅靜》:出入佛堂,要保持肅靜,避免妨礙鄰居之安寧,尤其機車要牽離社區再發動,要鄰居有好印象。
((ชู ยู่ ซู่ จิ้ง) ชู ยู่ ฝอ ถัง, เย่า เป่า ฉือ ซู่ จิ้ง, ปี้ เหมี่ยน ฝั่ง อ้าย หลิน จวี จือ อัน หนิง, อิ๋ว ฉี จี เชอ เย่า เชียน หลี เซ่อ ชวี ไจ้ ฟา ต้ง, เย่า หลิน จวี โหย่ว ห่าว อิ้น เซี่ยง)
เข้าออกสถานธรรม ต้องรักษาความสงบ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนความสงบของเพื่อนบ้าน ต้องเฉพาะรถมอเตอร์ไซด์ ควรเข็นไปในที่ห่างไกลจากแหล่งชมชนและค่อยสตาร์ทเครื่อง ให้บังเกิดความรู้สึกดีๆต่อเพื่อนบ้าน
8. 按規勿亂 (เจีย กุย อู้ ล่วน) ทำตามพุทธรระเบียบ อย่าได้สับสน
《按規勿亂》:天律森嚴,遵照禮節,前後順序,要有規矩,不可自創或任意更改,而破壞佛規禮節。
((เจีย กุย อู้ ล่วน) เทียน ลวี่ เซิน เหยียน, จุน เจ้า หลี่ เจี๋ย, เฉียน โฮ่ว ซุ่น ซวี่, เย่า โหย่ว กุย จวี่, ปู้ เข่อ จื้อ ช่วง ฮั่ว เยิ่น อี้ เกิ้ง ไก่, เย่า พ่อ ไฮว่ ฝอ กุย หลี่ เจี๋ย)
กฏของฟ้าเข้มงวดกวดขัน ต้องดำเนินตามพุทธระเบียบ ทำอะไรมีลำดับก่อนหลัง ต้องมีกรอบบรรทัดฐาน อย่าสร้างกรอบสร้างกฏขึ้นมาเอง และแก้ไขเปลี่ยนแปลงพุทธระเบียบตามใจชอบ และทำลายกฏพุทธะจริยระเบียบ
9. 敬畏精神 (จิ้ง เว่ย จิง เสิน) มีจิตเคารพยำเกรง
《敬畏精神》:對老中及諸天神聖要有敬畏的精神(內誠外敬)與禮儀,以表對道之尊敬。對前賢要有敬畏之心,以感謝成全鼓勵之恩。
((จิ้ง เว่ย จิง เสิน) ตุ้ย เหลา หมู่ จี๋ จู เทียน เสิน เซิ่ง เย่า โหย่ว จิ้ง เว่ย เตอะ จิง เสิน (เน่ย เฉิง ไว่ จิ้ง) อวี่ หลี่ อี๋, อี๋ เปี่ยว ตุ้ย เต้า จือ จุน จิ้ง, ตุ้ย เฉียน เสียน เย่า โหย่ว จิ้ง เว่ย จือ ซิน, อี๋ กั่น เซี่ย เฉิง เฉวียน กู่ ลี่ จือ เอิน)
ควรมีจิตเคารพยำเกรงต่อพระอนุตตรธรรมเจ้า มวลพุทธะโพธิสัตว์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ภายในจิตศรัทธาจริงใจ ภายนอกเคารพ) แสดงออกซึ่งจริยะ เคารพให้เกียรติญาติธรรม มีความเคารพยำเกรงต่อนักธรรมอาวุโส สำนึกขอบพระคุณที่ท่านคอยส่งเสริมและให้กำลังใจ
10. 禁談俗事 (จิ้น ถัน สู ซื่อ) ไม่คุยเรื่องโลกียวิสัย
《禁談俗事》:來到佛堂,以聖事爲重,不論道場及他人是非與長短,應隱惡揚善,多鼓舞互相勉勵。
((จิ้น ถัน สู ซื่อ) ไหล เต้า ฝอ ถัง, อี่ เซิ่ง ซื่อ เหวย จ้ง, ปู๋ ลุ่น เต้า ฉ่าง จี๋ ทา เหยิน ซื่อ เฟย อวี่ ฉาง ต่วน, อิง อิ่น เอ้อ หยาง ซั่น, ตัว กู๋ อู่ ฮู่ เซียง เหมี่ยน ลี่)
มาถึงพุทธสถาน ต้องเห็นความสำคัญของงานธรรมเป็นอันดับหนึ่ง ไม่คุยเรื่องโลกีย์วิสัย ไม่พูดถกวิพากษ์วิจารณ์จุดดีจุดด้อยของอาณาจักรธรรมและผู้อื่น รู้จักปิดบังสิ่งที่ไม่ดี ประกาศคุณความดีของผู้อื่น (หมายถึงไม่เปิดเผย แฉเรื่องราวบ่งพร่องหรือที่ไม่ดีของผู้อื่น รู้จักพูดในสิ่งดีงาม เสริมบารมีซึ่งกันและกัน) หมั่นให้กำลังใจส่งเสริมให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
11. 言語要低 (เหยียน อวี่ เย่า ตี) วาจาอ่อนโยนมีมารยาท
《言語要低》:佛堂內談話須輕聲,不可喧嘩亂嚷,以顯佛堂清靜莊嚴。
((เหยียน อวี่ เย่า ตี) ฝอ ถัง เน่ย ถัน ฮว่า ซวี ชิง เซิง, ปู้ เข่อ เซวียน ฮว๋า ล่วน หยั่ง, อี๋ เสี่ยน ฝอ ถัง ชิง จิ้ง จวง เหยี่ยน)
อยู่ในสถานธรรมควรพูดคุยกันเสียงเบาๆ อย่าส่งเสียงดังอึกทึกสร้างความวุ่นวาย เพื่อให้ปรากฏถึงความวิสุทธิ์สงบและศักดิ์สิทธิ์สง่างามของพุทธสถาน
12. 接物待人 (เจีย อู้ ไต้ เหยิน) รู้จักต้อนรับขับสู้
《接物待人》:道親之間以誠相待,謙恭有禮,不管做任何事,以「慈悲」道語相應,才能顯出道氣。
((เจีย อู้ ไต้ เหยิน) เต้า ชิน จือ เจียน อี่ เฉิง เซียง ไต้, เชียน กง โหย่ว หลี่, ปู้ ก่วน จั้ว เยิ่น เหอ ซื่อ, อี่ “ฉือ เปย” เต้า อวี่ เซียง อิ้ง, ไฉ เหนิง เสี่ยน ชู เต้า ชี่)
ระหว่างญาติธรรมด้วยกันปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจศรัทธา เคารพนอบน้อมมี
จริยมารยาทต่อกัน ไม่ว่าทำการใดอาศัยจิตเมตตาเป็นที่ตั้ง ถ้อยทีถ้อยอาศัยพูดคุยกันด้วยเหตุผลด้วยหลักธรรม จึงปรากฏบรรยากาศธรรม
13. 招呼道親 (เจา ฮู เต้า ชิน) ทักทายญาติธรรม
《招呼道親》:應以溫馨關心之行動,送往迎來招呼道親,以表佛堂之溫暖彼此間親切感。
((เจา ฮู เต้า ชิน) อิง อี่ เวิน ซิน กวน ซิน จือ สิง ต้ง, ซ่ง หวั่ง อิ๋ง ไหล เจา ฮู เต้า ชิน, อี๋ เปี่ยว ฝอ ถัง จือ เวิน หน่วน ปี๋ ฉื่อ เจียน ชิน เชี่ย กั่น)
การปฏิบัติต่อญาติธรรม ควรแสดงออกถึงท่าทีอ่อนโยนอุบอุ่นและเอาใจใส่ ต้อนรับขับสู้ทักทายญาติธรรมนั้นจะต้อง ให้ได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองของสถานธรรม และความใกล้ชิดสนิทสนมระหว่างญาติธรรมด้วยกัน
14. 教導禮節 (เจียว เต่า หลี่ เจี๋ย) นำพาสอนพุทธะจริยระเบียบ
《教導禮節》:如有道親禮節未熟悉,要主動教導或陪伴參辭駕,以帶動新道親的參與惑。
((เจี้ยว เต่า หลี่ เจี๋ย) หยู โหย่ว เต้า ชิน หลี่ เจี๋ย เว่ย โสว ซี, เย่า จู่ ต้ง เจี้ยว เต่า, ฮั่ว เผย ปั้น ชัน ฉือ เจี้ย, อี่ ไต้ ต้ง ซิน เต้า ชิน เตอะ ชัน อวี่ ฮั่ว)
หากมีญาติธรรมที่ยังไม่ชำนาญหรือไม่คุ้นเคยจริยะระเบียบ ควรกระตือรืนร้นสอนเขา หรือไม่ก็ชันเจี้ยเป็นเพื่อนนำพาญาติธรรมใหม่ และทำให้ญาติธรรมมีความรู้สึกว่าอยากจะมาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
15. 講解勸化 (เจี่ยง เจี่ย เชวี่ยน ฮว่า) รู้จักอธิบาย และตักเตือนกล่อมเกลา
《講解勸化》:如道親同修對道的真理有未明瞭之處,能加以講解或鼓勵成全,讓大家對道的信心更堅定。
((เจี๋ยง เจี่ย เชวี่ยน ฮว่า) หยู เต้า ชิน ถง ซิว ตุ้ย เต้า เตอะ เจิน หลี่ โหย่ว เว่ย หมิง เหลียว จือ ชู่, เหนิง เจีย อี่ เจี๋ยง เจี่ย ฮั่ว กู่ ลี่ เฉิง เฉวียน, ยั่ง ต้า เจีย ตุ้ย เต้า เตอะ ซิ่น ซิน เกิ้ง เจียน ติ้ง)
หากญาติธรรมและเพื่อนร่วมบำเพ็ญ มีจุดไหนยังกระจ่างไม่เข้าใจในหลักธรรม ควรอธิบาย หรือส่งเสริมให้กำลังใจ เพื่อให้ทุกคนมีความมั่นคงเชื่อมั่นต่อธรรมะมากยิ่งขึ้น
16. 入座端正 (ยู่ จั้ว ตวน เจิ้ง) นั่งตัวตรงสง่างาม
《入座端正》:在上課之時不可蹺腳,以免對仙佛與前賢失禮,更何況學道者應有立如松、坐如鐘之精神,以顯修行者風度。
((ยู่ จั้ว ตวน เจิ้ง) ไจ้ ซั่ง เค่อ จือ สือ ปู้ เข่อ เชี่ยว เจี่ยว, อี๋ เหมี่ยน ตุ้ย เซียน ฝอ อวี่ เฉียน เสียน ซือ หลี่, เกิ้ง เหอ ค่วง เสวีย เต้า เจ่อ อิง โหย่ว ลี่ หยู ซง, จั้ว หยู จง จือ จิง เสิน, อี๋ เสี่ยน ซิว สิง เจ่อ เฟิง ตู้)
ขณะนั่งเข้าชั้นเรียนอย่านั่งไขว่ห้าง เพื่อจะได้ไม่เสียมารยาทต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และนักธรรมอาวุโส ผู้บำเพ็ญธรรมนั้น สมควรมีพลังสมาธิยืนตัวตรงดั่งต้นสน นั่งดั่งระฆัง เพื่อแสดงให้ปรากฏถึงบุคลิกอันดีงามของผู้บำเพ็ญธรรม
17. 低心下氣 (ตี ซิน เซี่ย ชี่) จิตใจอ่อนน้อมถ่อมตน
《低心下氣》:在修道過程有未知或不明之處應虛心求教,不可愩高我慢,目中無人。
((ตี ซิน เซี่ย ชี่, ไจ้ ซิว เต้า กั้ว เฉิง โหย่ว เว่ย จือ ฮั่ว ปู้ หมิง จือ ชู่ อิง ซวี ซิน ฉิว เจี้ยว, ปู้ เข่อ ก้ง เกา หว่อ ม่าน, มู่ จง อู๋ เหยิน)
ในระหว่างขั้นตอนการบำเพ็ญ มีจุดไหนหรืออะไรที่ไม่รู้ไม่เข้าใจ รู้จักเรียนถาม ขอคำชี้แนะด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ห้ามยะโสอวดดี ไม่เห็นใครในสายตา
18. 上立下起 (ซั่ง ลี่ เซี่ย ฉี่) เมื่อผู้ใหญ่ลุกเรายืน
《上立下起》:與點傳師及前賢談話,應站立以表尊敬,點傳師慈悲有指示再坐下。而與前輩同坐之時,前輩起立,後輩必須隨之起立。
((ซั่ง ลี่ เซี่ย ฉี่) อวี่ เตี่ยน ฉวน ซือ จี๋ เฉียน เสียน ถัน ฮว่า, อิง จั้น ลี่ อี๋ เปี่ยว จุน จิ้ง, เตี่ยน ฉวน ซือ ฉือ เปย โหยว จื่อ ซื่อ ไจ้ จั้ว เซี่ย, เอ๋อร์ อวี่ เฉียน เป้ย ถง จั้ว จือ สือ, เฉียน เป้ย ฉี่ ลี่, โฮ่ว เป้ย ปี้ ซวี สุย จือ ฉี่ ลี่)
ขณะคุยกับเตี่ยนฉวนซือและนักธรรมอาวุโส ควรจะยืนเพื่อแสดงความเคารพให้เกียรติท่าน หากเตี่ยนฉวนซือเมตตาชี้แนะหรืออนุญาติให้นั่งค่อยนั่งลง และเวลานั่งด้วยกันกับนักธรรมอาวุโส หากนักธรรมอาวุโสลุกขึ้น คนที่เป็นผู้น้อยจะต้องลุกขึ้นยืนตาม
19. 起身立正 (ฉี่ เซิน ลี่ เจิ้ง) เวลายืนยืนให้ตัวตรง
《起身立正》:上課中前賢問話或叫名之時,應喊「有」起身回應,挺身立正,不得歪斜,答後恭敬回座。
((ฉี่ เซิน ลี่ เจิ้ง) ซั่ง เค่อ จง เฉียน เสียน เวิ่น ฮว่า ฮั่ว เจี้ยว หมิง จือ สือ, อิง หั่น “โหย่ว” ฉี่ เซิน หุย อิ้ง, ถิ่ง เซิน ลี่ เจิ้ง, ปู้ เต๋อ วาย เสีย, ต๋า โฮ่ว กง จิ้ง หุย จั้ว)
ระหว่างเข้าชั้นเรียน เวลานักธรรมอาวุโสถามหรือเรียกชื่อ ควรตอบรับว่า “ครับ/ค่ะ” พร้อมกับลุกขึ้นตอบ ด้วยการยืนตัวตรง อย่าเอนไปเอนมา หลังตอบเสร็จ ทำความเคารพด้วยนบนอบ แล้วกลับไปนั่งที่เดิม
20. 不准談笑 (ปู้ จุ่น ถัน เซี่ยว) ไม่พูดคุยหัวเราะเสียงดัง
《不准談笑》:上課中不可交談嬉笑擾亂上課,否則有違佛規。
((ปู้ จุ่น ถัน เซี่ยว) ซั่ง เค่อ จง ปู้ เข่อ เจียว ถัน ซี เซี่ยว เหย่า ล่วน ซั่ง เค่อ, โฝ่ว เจ๋อ โหย่ว เหวย ฝอ กุย)
ขณะเข้าชั้นเรียน อย่าพูดคุย หัวเราะต่อกระซิกกัน สร้างความวุ่นวายในชั้นเรียน มิฉะนั้นจะผิดต่อพุทธระเบียบ
21. 聽講禁聲 (ทิง เจี่ยง จิ้น เซิง) ฟังธรรมงดเสียง
《聽講禁聲》:聽講中保持肅靜,有問題筆記錄,休息或下課再發問。
((ทิง เจี่ยง จิ้น เซิง) ทิง เจี่ยง จง เป่า ฉือ ซู่ จิ้ง, โหย่ว เวิ่น ถี ปี่ จี้ ลู่, ซิว สี ฮั่ว เซี่ย เค่อ ไจ้ ฟา เวิ่น)
ระหว่างฟังการบรรยายต้องรักษาความสงบ หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยให้จดบันทึกไว้ ถึงเวลาพักหรือหลังเลิกชั้นเรียน ค่อยเรียนถาม
22. 非問勿言 (เฟย เวิ่น อู้ เหยียน) ฟังธรรมไม่ถาม อย่าพูด
《非問勿言》:上課中前賢沒有提問,請問發言,保持佛堂莊嚴。
((เฟย เวิ่น อู้ เหยียน) ซั่ง เค่อ จง เฉียน เสียน เหมย โหย่ว ถี เวิ่น, ฉิ่ง เวิ่น ฟา เหยียน, เป่า ฉือ ฝอ ถัง จวง เหยียน)
ระหว่างเข้าชั้นเรียนหากนักธรรมอาวุโสไม่ถามอย่าได้พูด รักษาความศักดิ์สิทธิ์ สง่างาม ของพุทธสถาน
23. 有問必答 (โหย่ว เวิ่น ปี้ ต๋า) เมื่อมีถาม ให้ตอบ
《有問必答》:前賢有提問時,請盡力回答,不明之之處請求慈悲指示。
((โหย่ว เวิ่น ปี้ ต๋า) เฉียน เสียน โหย่ว ถี เวิ่น สือ, ฉิ่ง จิ้น ลี่ หุย ต๋า, ปู้ หมิง จือ ชู่ ฉิ่ง ฉิว ฉือ เปย จื่อ ซื่อ)
ขณะนักธรรมอาวุโสถาม ควรพยายามตอบคำถาม จุดใดไม่เข้าใจขอนักธรรมอาวุเมตตาชี้แนะ
24. 不分貧富 (ปู้ เฟิน ผิน ฟู่) ร่ำรวยหรือยากจนไม่แบ่งแยกฐานะ
《不分貧富》:眾生平等,貧富無別,因大家都是老中的原佛子,應同樣以禮相待,互相勉勵成全。
((ปู้ เฟิน ผิน ฟู่) จ้ง เซิง ผิง เติ่ง, ผิน ฟู่ อู๋ เปี๋ย, อิน ต้า เจีย โตว ซื่อ เหลา หมู่ เตอะ เอวี๋ยน ไท ฝอ จื่อ, อิง ถง ยั่ง อี๋ หลี่ เซียง ไต้, ฮู่ เซียง เหมี่ยน ลี่ เฉิง เฉวียน)
เวไนยสัตว์ล้วนเสมอภาค ไม่ได้แตกต่างกันที่ความร่ำรวยสูงศักดิ์หรือยากจนต่ำต้อย เพราะทุกคนล้วนเป็นพุทธบุตรเดิมของพระแม่องค์ธรรม ดังนั้นทุกคนควรปฏิบัติต่อกันอย่างมีจริยะด้วยความเสมอภาค ต่างร่วมส่งเสริมให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
25. 一視同仁 (อี๋ ซื่อ ถง เหยิน) มองทุกคนด้วยจิตเมตตาเสมอภาค
《一視同仁》:同是一師之徒,一中之子,佛性平等,應不分彼此。
((อี๋ ซื่อ ถง เหยิน) ถง ซื่อ อี้ ซือ จือ ถู, อิ๊ หมู่ จือ จื่อ, ฝอ ซิ่ง ผิง เติ่ง,อิง ปู้ เฟิน ปี๋ ฉื่อ)
“ถง” หมายถึง “เหมือนกัน” ที่เหมือนกันก็คือ ต่างเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน ล้วนต่างเป็นพุทธบุตรแห่งองค์ธรรมมารดาเช่นกัน พุทธจิตธรรมญาณล้วนเสมอภาค จึงไม่สมควรแบ่งแยก
* งานแปลสงวนลิขสิทธิ์

"เข็มทิศการบำเพ็ญ"

ตัวอย่างเนื้อหา ผลงานแปล หนังสือ "เข็มทิศการบำเพ็ญ"
เล่มที่ ๑ ที่เพิ่งขาดตลาด ใครต้องการขออนุญาตตีพิมพ์
ติดต่อได้โดยตรง 0892003909
第一課 成功來自磨練 成功來自磨練
บทที่ ๑ ความสาเร็จมาจากการเคี่ยวกรํา

ความสาเร็จของคนๆหนึ่ง ถ้าหากไม่เจอการเคี่ยวกรา ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับตาแหน่งแห่งความสาเร็จ เหมือนกับการปีนบันได ต้องปีนขึ้นไปทีละก้าวๆ เจ้าต้องเตรียมใจให้พร้อม แต่ละขั้นของบันได มีสูงบ้าง เตี้ยบ้าง ตัวเองต้องย่าก้าวให้มั่นคง หากเจ้าไม่เตรียมพร้อมจิตใจให้มั่นคงแข็งแรงเพียงพอ แม้จะปีนขึ้นไปได้แล้ว แต่ก็ไม่มั่นคง ดังนั้น หากเจ้าเกิดความโลภอยากประสบความสาเร็จในทันทีทันใด ต้องการเหนือกว่าคนอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นเจ้าต้องรีบปรับจิตใจของเจ้า

ไม่มีเส้นทางบาเพ็ญธรรมของใครที่ราบเรียบเสมอ ย่อมต้องมีอุปสรรคลุ่มดอน และไม่ราบรื่น ระหว่างคนอยู่ร่วมกัน มีบางเวลาที่อาจจะไม่สมใจปรารถนาเสมอไป เพราะจิตใจของพวกเจ้า ความคิดของพวกเจ้า ไม่สามารถปรับให้สมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นจะต้องปรับตนเองก่อน บาเพ็ญบ่มเพาะตนเองก่อน ไม่ใช่ไปที่ไหนก็เที่ยวไปขอร้องกวดขันคนอื่นให้ร่วมมือกับเจ้า ตัวเจ้าเองต้องบาเพ็ญให้ดีก่อน จึงสามารถส่งผลกระทบที่ดีต่อคนอื่นได้

คนเราจะต้องมีพลังห้าวหาญ แต่อย่าได้เย่อหยิ่งทรนง มีพลังในการไปดาเนินเรื่องราวต่างๆ มีพลังความกล้าหาญในมุ่งตรงไปข้างหน้า ไม่หวั่นกลัวอุปสรรคขวากหนาม ในชีวิตคนเราเรื่องความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ยากหลีกเลี่ยงได้ อย่าได้เป็นเพราะความผิดพลาดล้มเหลวครั้งสองครั้ง ก็ไม่กล้าที่จะก้าวมุ่งต่อไปข้างหน้า

ชีวิตคนเราเป็นเพราะมีอุปสรรคไม่ราบรื่น ดังนั้นจึงมีมีความเจ็บปวดใจ จิตใจไม่เบิกบาน อันที่จริงแล้วเรื่องเหล่านี้เป็นความทุกข์กลัดกลุ้มที่คนเราหามาใส่ตัวเอง หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ตนเองหลับหูหลับตาไปแสวงหา ทั้งที่ตนเองสามารถทาได้และไม่อยากทา นี่เรียกว่าตนเองทาเองรับเอง (หาความทุกข์ใส่ตัวเอง) หากสามารถมองถ่องแท้ คิดไตร่ตรองให้กระจ่างแจ้ง เจ้าก็จะได้รับความสุข

คนเราบ่อยครั้งที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามจึงเกิดความท้อแท้ถดถอย จิตใจท้อแท้ถดถอย พวกเจ้าจาเป็นต้องไปเผชิญหน้ากับมัน แก้ไขปัญหาต่างๆ จึงจะสามารถประสบความสาเร็จ มองเห็นคนอื่นดูเหมือนจะประสบสาเร็จง่ายดายมาก แต่แท้จริงแล้วล้วนต้องผ่านความเสียสละและทุ่มเทใจ เพราะว่าความสาเร็จนั้นมิใช่เรื่องบังเอิญ มีเพียงตัวเราเองต้องทุ่มเทใจอย่างแท้จริง เบื้องหลังอาจได้รับความลาบากบ้าง นั่นจึงเป็นความสาเร็จอย่างแท้จริง

ทุกคนต่างก็มีหนทางตันและมีเรื่องที่จาเป็นต้องฝ่าฟันไปให้ได้ แม้ว่าจุดตันจะฝังอยู่ในใจพวกเรานานเท่าไหร่ ขอเพียงศิษย์ทั้งหลายไม่ยอมแพ้ กล้าหาญที่จะก้าวออกมา ขอเพียงศิษย์ทั้งหลายรู้จักขอบคุณตัวเอง ขอบคุณฟ้าเบื้องบน ขอบคุณบุพการีของเจ้าที่มอบทุกอย่างให้ ตั้งใจถนอมรักษาไว้ให้ดี เส้นทางสายนี้จะสว่างไสวตลอดไป

หากไม่ผ่านความมืดมิด ในเลยจะปรากฏความล้าค่าสูงส่งของแสงสว่างโชติช่วง ยิ่งเจออุปสรรคความ
ยากลาบาก ยิ่งจะต้องกล้าหาญไปฝ่าฟัน ตั้งปณิธานความมุ่งมั่น เข้มแข็งยืนหยัดต่อไปให้ถึงที่สุด ยิ่งกว่านั้นจะต้องมีความมั่นคงศรัทธาตลอดไป ขอเพียงพวกเจ้ามีความศรัทธาจริงใจอย่างถึงที่สุด ดังที่เรียกว่า “ความจริงใจศรัทธาย่อมเกิดความศักดิ์สิทธิ์” ฟ้าเบื้องบนย่อมไม่ทอดทิ้งหรือผิดต่อพวกเจ้าอย่างแน่นอน พระคุณฟ้าดินนั้นยิ่งใหญ่ เราทั้งหลายล้วนโชคดีมีวาสนา อาจารย์หวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะมีแต่ความคิดที่ดีงาม ชะตาชีวิตก็จะอยู่ในกามือของตนเอง คนอื่นไม่อาจบงการพวกเราได้ เข้าใจไหม?

ไม่ว่าวันนี้เจ้าอาจคิดว่ามาที่นี่เพื่อดูละคร หรือว่าเจ้าจะเคารพให้ความสาคัญตนเองอย่างแท้จริง หรือตัวเจ้าเองอาจรู้สึกว่าในชีวิตนี้ควรจะมีเส้นทางสายหนึ่งที่ให้เจ้ามุ่งไปตามนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บนเส้นทางชีวิตคน ทุกคนที่ต้องการเติบโต แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีใครที่ไม่เคยหกล้มมาก่อน ไม่ว่าวันนี้เจ้าเลือกเส้นทางไหน จะต้องแยกแยะให้ชัดเจน มองเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน ตั้งใจก้าวดาเนินไปบนเส้นทางชีวิตของเจ้าให้สมบูรหากปรารถนาจะดารงชีวิตให้มีความหมาย จิตใจจะต้องมีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง และจิตใจจะต้องมีปฏิภาณไหวพริบรู้พลิกแพลง อย่าทาให้จิตใจของตนเองต้องตกต่า ยามเจออุปสรรคขวากหนาม ถูกปฏิเสธ ไม่เป็นไร สิ่งเหล่านี้อาจารย์เองก็เคยได้รับมาก่อน แต่อาจารย์ก็เด็ดเดี่ยวแน่วแน่เดินมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่า ไม่ใช่คนทุกคน ไม่ใช่ศิษย์ทุกคนจะยินยอมน้อมรับอาจารย์ แต่อาจารย์ยังคงมีจิตใจยึดมั่นไม่หวั่นไหวระย่อท้อ ไม่เคยพูดเลยว่าจะทอดทิ้งพวกเจ้า

ศิษย์ทั้งหลายต้องตั้งใจให้ดี บาเพ็ญธรรมให้ดีๆ ด้านมนุษยธรรม ด้านบาเพ็ญอนุตตรธรรมต้องปฏิบัติดาเนินให้ถึงที่สุด ขอเพียงศิษย์สบายดี อาจารย์ก็สบายใจ ต้องเข้าใจว่าชีวิตมีคุณค่าความหมาย ชีวิตนี้จึงไม่สูญเปล่า ถึงแม้บางครั้งศิษย์ไม่อาจแสดงความสามารถได้เต็มที่ แต่ทุกอย่างล้วนมีเหตุปัจจัย จะเร่งรีบร้อนใจก็ไม่ได้ ดังนั้นจะต้องมีปณิธานความมุ่งมั่นที่ยิ่งใหญ่ แต่อย่าได้ใฝ่สูงหวังไกลเกินไป ศึกษาพระคัมภีร์ต่างๆให้มาก ทาความเข้าใจในหลักเหตุผล ยึดหลักสัจธรรมบาเพ็ญจริง ต้องตื่นแจ้งอย่างถ่องแท้ว่ากายสังขารนี้คือตัวปลอม แม้กระทั่งการเจ็บป่วยก็เป็นสิ่งจอมปลอม ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ต้องมองให้กระจ่าง ตั้งใจบาเพ็ญธรรมให้ดี อย่าได้ลืมความทุ่มเทใจของอาจารย์

* หนังสือเล่มนี้ มีลิขสิทธิ์ หากต้องการจัดพิมพ์ ติดต่อได้โดยตรง
* เจ้าของผลงานใจดี แต่ขอเพียงทำให้ถูกขั้นตอน

2016年12月15日 星期四




【นิทานตัวอย่าง】---ถูกหลอมสลักและสำนึกคุณ-- 雕琢與感恩
  มีพระเถระท่านหนึ่งต้องการแกะสลักองค์ปฏิมาพระโพธิสัตว์เพื่อประดิษฐานไว้ที่วัด ท่านจึงได้เดินทางขึ้นเขาเพื่อไปหาก้อนหินที่ดีที่สุด
หลังจากผ่านความยากลำบากนานัปการ ในที่สุดพระเถระก็เจอก้อนหินที่ตนต้องการ ระหว่างเดินทางกลับ นอกจากเขาได้ก้อนหินที่ดีที่สุดแล้ว ยังหยิบก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งติดมือกลับมาด้วย เพื่อให้งานสำเร็จลุล่วงภายในเวลา3เดือน เขารีบเอาหินก้อนที่คุณภาพดีที่สุดออกมาแกะสลักเป็นรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์
พอท่านทุบลงไปเท่านั้น ก้อนหินก็ร้องว่า “เจ็บเหลือเกิน”
พอทุบลงไปครั้งที่สอง มันก็ร้องเสียงดังว่า “ข้าทนไม่ไหวแล้ว”
  พระเถระกล่าวว่า “แต่ข้าต้องการแกะสลักเจ้าเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์ให้ผู้คนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา” จากนั้นก็ทุบลงไปครั้งที่3 ก้อนหินทนไม่ไหวร้องเสียงดัง “อย่าทุบข้าอีกเลย ข้าเจ็บเหลือเกิน ไม่เป็นไร ข้าไม่ต้องการเป็นพระโพธิสัตว์แล้ว
พระเถระจนหนทาง จึงได้แต่นำก้อนหินนี้วางไว้ด้านข้าง แล้วหยิบก้อนหินธรรมดาออกมาแกะสลักแทนในขณะที่พระเถระกำลังทำการแกะสลักอยู่นี้ ก้อนหินธรรมดาก็รู้สึกเจ็บมากเหมือนกัน แต่มันก็พยายามอดทนอย่างยิ่งยวด เพราะมันรู้ว่าพระเถระจารย์ต้องการแกะสลักเพื่อทำรูปพระโพธิสัตว์
ดังนั้นเจ้าก้อนหินธรรมดาก้อนนี้จึงอดทนด้วยจิตใจสำนึกคุณอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณพระเถระจารย์ที่เหน็ดเหนื่อยลำบากเหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง เพื่อที่จะเสริมสร้างมันให้ประสบความสำเร็จกลายเป็นของล้ำค่า แล้วในที่สุดพระเถระจารย์ก็แกะสละรูปประติมาพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งที่งดงามสมบูรณ์มาก นำมาวางไว้ในวัดให้ผู้คนทั้งหลายกราบไหว้สักการะบูชา
วัดแห่งนี้จึงเจริญรุ่งเรืองมีกลิ่นธูปที่ถูกจุดหอมขจร ทุกวันมีสาธุชนผู้มีจิตศรัทธามากมายเดินทางมาตั้งจิตอธิษฐานและขอพร ผ่านไปไม่กี่ปี ก้อนหินที่กลายเป็นเพียงแค่เศษหินก็กล่าวกับ ก้อนหินรูปพระโพธิสัตว์ว่า “เจ้าช่างโชคดีเหลือเกิน จากก้อนหินธรรมดาก็สามารถกลายเป็นพระโพธิสัตว์ได้ ตัวข้าทั้งๆที่เป็นก้อนหินที่คุณภาพดีล้ำค่า กลับเป็นได้แค่ก้อนหินที่คนเขานำมาปูทางเดินเท่านั้น ทุกวันต้องถูกผู้คนเหยียบย่ำ ตกอยู่ภายใต้เท้าของพวกเขา
     พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า “เจ้าก้อนหินคุณภาพดีเอ๋ย ในปีนั้นพระอาจารย์เห็นว่าเจ้าเป็นก้อนหินที่มีราคา คุณภาพดี จึงต้องการแกะสลักเจ้า ให้เจ้านั้นประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ แต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าในอานาคตของตนเองต้องทำอะไร อีกทั้งยังไม่มีจิตสำนึกคุณ ดังนั้นจึงอดทนต่อความเจ็บปวดทรมานจากการแกะสลักเคี่ยวกรำไม่ได้ ละทิ้งโอกาสที่จะสามารถสำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์ จึงทำให้วันนี้ชะตาชีวิตของข้ากับเจ้าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วเจ้าจะโทษใครได้เล่า”
 เศษหินพูดอย่างจนใจว่า “หากรู้ก่อนล่วงหน้าถึงผลที่จะได้รับในวันนี้ ในตอนแรกไหนจะทำแบบนั้น” พระอาจารย์ต้องการมอบภาระอันยิ่งใหญ่และสำคัญให้กับข้า แต่ข้ากลับไม่รู้ถึงความทุ่มเทใจของท่านแม้แต่น้อย บัดนี้ เจ้ากลายเป็นพระโพธิสัตว์ที่ผู้คนมากมายพากันกราบไหว้ ส่วนตัวข้ากลับเป็นเพียงเศษหินที่ถูกผู้คนทั้งหลายเหยียบย่ำ และบ่อยครั้งจะต้องดมกลิ่นอุจจาระของแมวและสุนัข ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทุกข์ที่ตัวข้าหาใส่ตัวเอง จะไปโทษใครได้!”

เครดิต "หนังสือบำเพ็ญบุญวาสนากับปัญญา" หจ.เป่ยเฉิน
ISBN 978-616-7994-05-5
* มอบหนังสือธรรมะ ให้คนที่คุณรัก เป็นการเสริมส่งปัญญา

หนังสือกตัญญู (ฉบับพุทธมหายาน)



คัมภีร์ร้อยกตัญญู (อิงตามพุทธมหายาน)
หนังสือเนื้อหาดีๆ เน้นแก่นสำคัญของความกตัญญูที่แท้จริง
เหมาะสำหรับแจกทุกเทศกาล เป็นมงคลกับชีวิต
ผู้ใดเผยแพร่กตัญญุตาธรรม ชีวิตย่อมพบแต่ความเจริญ
สนใจหนังสือเล่มนี้ ติดต่อ หจ.เป่ยเฉิน 0988276319,0892003909




2016年12月3日 星期六

โปรโมชั่นเดือนธันวาคม 2559 / มกราคม2560
สั่งเป็นชุด ชุดละ 520 ลดเหลือ 420
บวกค่าส่ง ขั้นต่ำ 50 บาท
* การให้หนังสือเป็นของรางวัล คือการให้แสงสว่างปัญญา
* หนังสือ ทั้ง6 เล่มคือผลงานแปลและเรียบเรียง ของ "หลังฮว๋า"
* ราคาพิเศษโดยนี้ คือของขวัญจากสำนักพิมพ์
* TEL: 0988276319,0892003909
* ธ กรุงเทพฯ 2450663832