2015年7月12日 星期日

ติงหลันสำนึกคุณมารดา (ที่มาป้ายไหว้บรรพชน)

ติงหลันสำนึกคุณมารดา (ที่มาป้ายไหว้บรรพชน)
(ผลงานแปลหลังฮว๋า)
หากไม่รู้พื้นฐานของกตัญญุตาธรรม
อย่างนั้นก็กล่าวได้ว่า “สู้สัตว์เดรัจฉานยังไม่ได้” ดั่งมีคำกล่าวว่า
“แพะรู้จักบุญคุณคุกเข่าขอนม อีกายังมีมโนธรรมนำอาหารมาเลี้ยงพ่อแม่” แม้แต่สัตว์เดรัจฉานยังรู้จักปฏิบัติความกตัญญ นับประสาอะไรกับมนุษย์ชาติซึ่งชื่อว่าเป็น「萬物之靈“สัตว์ประเสริฐ”」
ยกตัวอย่างเช่นในหนังสือ24กตัญญู มีนิทานบทหนึ่งเรื่อง “แกะสลักไม้” ก็คือการเขียนพรรณนาถึง “กตัญญุตาธรรม” เรื่องมีอยู่ว่า มารดาของติงหลานเป็นหญิงหม้าย มีติงหลันเป็นลูกคนเดียว ดังนั้นตั้งแต่เขายังเล็กนางไม่เคยย่อท้อต่อความลำบาก ดูแลเอาใจใส่เขาทุกอย่าง แต่เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่ กลับเนรคุณต่อมารดาเสมอ บางครั้งเมื่อเจอเรื่องราวต่างๆที่ไม่ได้ดั่งใจ ก็โมโหใส่มารดา บางครั้งถึงขั้นต่อย ตี เตะ ถีบมารดา
มีช่วงหนึ่ง ติงหลันปล่อยแกะกินหญ้าอยู่บนภูเขา
ทุกวันตอนเที่ยง มารดาจะส่งข้าวกล่องไปให้เขากิน แต่ไม่ว่าส่งเร็วหรือส่งช้า มักถูกเขาด่าและทุบตีอย่างทารุณ
ช่างปรณนิบัติเอาใจยากเหลือเกิน และก็ไร้เหตุผลเกินไป
วันหนึ่งติงหลันพบว่ามีรังอีกาอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่ง ลูกอีกาบินขึ้นบินลงไม่หยุด ระหว่างที่บินวนเวียนอยู่นั้น สาระวนอยู่กับการหาอาหาร
จากนั้นค่อยๆป้อนให้แม่อีกากินทีละคำ
ตอนนั้นเมื่อติงหลันเห็นภาพที่ชวนให้คนประทับใจ ในใจคิดว่า แม้แต่สัตว์ปีกยังรู้จักกตัญญูรู้คุณ แต่เราซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ยังสู้สัตว์เดรัจฉานไม่ได้
เวลาเดียวกันมีแพะตัวหนึ่งกำลังคุกเข่าดื่มนมแม่
ติงหลันเมื่อเห็นฉากนี้แล้ว จิตมโนธรรมสำนึกก็ถูกโน้มน้าวให้ปรากฏออกมา ทำให้รู้สึกละอายใจยิ่งนัก
ขณะที่เขากำลังคิดใคร่ครวญอยู่นั้น พอดีมารดาของเขากำลังค่อยๆเดินมาแต่ไกล จึงรีบวิ่งจนเกือบเหาะไปหามารดา เพื่อต้องการที่จะยอมรับผิดและสำนึกผิดต่อมารดา
แต่เมื่อมารดาเห็นติงหลันวิ่งมาหาก็เข้าใจผิดคิดว่าเขาจะทุบตีนาง คิดในใจว่าวันนี้ส่งอาหารสายไปหน่อย กลัวว่าจะถูกทุบตีอีก ถ้าหากไม่วิ่งหนีไป คงไม่มีชีวิตรอด
ดังนั้นจึงวิ่งจ้ำอ้าวหนีไป ติงหลันเห็นมารดาวิ่งก็วิ่งตามหลังไปติดๆ
โชคไม่ดีเมื่อมารดาของเขาวิ่งไปจนสุดหนทาง มีเพียงแม่น้ำสายหนึ่ง ครั้นเหลียวมองไปข้างหลังเห็นลูกกำลังวิ่งไล่ตามมา
จะทำอย่างไรดีล่ะ? ในใจคิดว่าวันนี้ยอมกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ไม่ยอมให้ลูกตีจนตาย จากนั้นจึงกระโจนลงน้ำ เมื่อติงหลันวิ่งมาถึงริมแม่น้ำ จึงกระโดดลงไปในแม่น้ำเพื่อช่วยเหลือมารดา พยายามค้นหาอย่างไรก็ค้นหาศพมารดาไม่เจอ คว้าได้เพียงไม้กระดานแผ่นหนึ่ง จึงนำไม้กระดานแผ่นนั้นกลับบ้าน ไปบูชาและกราบไหว้
(นี่คือที่มาของป้ายเซ่นไหว้วิญญาณ)
คัมภีร์กตัญญูกล่าวว่า
“สิ่งที่ลูกกตัญญูพึงปฏิบัติต่อบุพการี มีดังนี้คือ
1.การพักอยู่อาศัย ยามปรกติอยู่ที่บ้าน
ต้องปฏิบัติต่อท่านด้วยความเคารพสูงสุด
2.การเลี้ยงดู ต้องดูแลให้ท่านสุขกายสบายใจ
3.ยามพ่อแม่เจ็บไข้ได้ป่วย จะต้องมีจิตใจที่พะวงห่วงใยท่านอย่างที่สุด
4.ยามที่พ่อแม่ล่วงลับไป มีจิตใจโศกเศร้าอาดูรอาลัยถึงท่านเป็นที่สุด
5.การรำลึกเซ่นไหว้ท่าน
ต้องมีความเคร่งครัดสำรวม ทั้งห้าข้อนี้หากปฏิบัติได้โดยครบถ้วนสมบูรณ์ จึงเรียกว่ามีความกตัญญูปรนณิบัติบุพการี
ทั้งห้าประเด็นนี้คือหลักธรรมซึ่งผู้เป็นลูกพึงปฏิบัติต่อบุพการีตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่และเป็นจริยะพิธีในการเซ่นไหว้หลังจากท่านล่วงลับไป
ดังคำอธิบายต่อไปนี้(งานลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาติให้ลอกเลียนแบบ มีผลตามกฏหมาย)

沒有留言:

張貼留言