2013年10月27日 星期日

เมื่อสักวันเราเองก็ต้องแก่เฒ่า

อย่าแล้งน้ำใจนักเลยกับคนเฒ่าคนแก่
วันหนึ่งเราก็หนีไม่พ้นล่วงสู่ชราวัย
อย่ารำคาญใจที่ต้องฟังคำพูดซ้ำซาก ที่รู้สึกห่างไกลเหลือเกินกับชีวิตจริงของเรา
นั่นคือความสุขเล็กๆน้อยๆของท่าน การมีคนรับฟัง คือของขวัญมีค่าของคนแก่
อย่าหมดความอดทนกับท่าทีงกเงิ่น ทำอะไรดูเชื่องช้าไปหมด
จำได้ว่าในอดีตผู้เขียนร้อนรนใจมากที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปอบรมเกี่ยวกับโปรเจกสำคัญ
ลงจากรถเมล์ไปนั่งเรือข้ามฝั่งไปยังอีกฟาก มองนาฬิกา ไม่น่าจะทันแน่ หากต้องต่อรถสองแถว
ไม่รีรอรีบโบกรถแท๊กซี่ แล้วกระโดดขึ้นรถ บอกจุดหมายปลายทางโซเฟอร์ "รบกวนช่วยส่งถึงจุดหมายด่วนที่สุดนะคะ" คุณลุงตอบอย่างเกรงใจว่า ลุงขับได้เร็วสุดเท่านี้แหละครับ........!!!
เพิ่งสังเกตุหน้าคนขับ อายุเจ็ดสิบกว่า ขับรถอยู่ที่ความเร็วสุดไม่ถึง60
ผู้เขียนเลยบอกตัวเองว่า อืม "ทำใจแล้วกันเรา" ฮ่าฮ่าๆ
 ใจนั้นร้อนรนสุดๆ แต่ก็่อดชื่นชมคุณลุงไม่ได้ว่าอายุมากขนาดนี้ยังขยันทำมาหากิน ไม่เบมือเบเท้า เป็นภาระให้ลูกหลาน
เราอย่ารำคาญคนแก่เลย เพราะสักวันเราก็แก่  อย่ารังเกียจคนแก่เลย เพราะเราเองเมื่อแก่ก็อาจจะถูกรังเกียจเหมือนกัน "หากทุกคนรู้จักรักพ่อแม่ของผู้อื่นเหมือนรักพ่อแม่ของตนเอง รู้จักรักลูกหลานของคนอื่นเหมือนรักลูกหลานของตน" สังคมนี้จะน่าอยู่แค่ไหน


                                                                                 
ธีรนาถ (สายลมแห่งความหวังดี)

沒有留言:

張貼留言